รองอธิบดีราชทัณฑ์ยืนยัน ผู้คุมคู่กรณี ‘อดีต ผกก.โจ้’ ไม่มีอภิสิทธิ์ สั่งสอบเข้ม คลี่ปมเสียชีวิต

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยัน ไม่มีใครช่วยเหลือผู้คุมคู่กรณี “อดีตผู้กำกับโจ้” พร้อมตั้งคณะกรรมการนอกหน่วยสอบหาข้อเท็จจริงคลี่ปมการตาย “อดีตผู้กำกับโจ้”

รองอธิบดีราชทัณฑ์ยืนยัน ผู้คุมคู่กรณี ‘อดีต ผกก.โจ้’ ไม่มีอภิสิทธิ์ สั่งสอบเข้ม คลี่ปมเสียชีวิต

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

10 มี.ค.68 พันตำรวจโทเชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ที่เรือนจำกลางจังหวัดระยอง ถึงความคืบหน้ากรณีพันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ เสียชีวิตจากการใช้ผ้าขนหนูผูกคอตัวเองในห้องขังเดี่ยวภายในเรือนจำคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า ได้มีคำสั่งย้ายนายสิทธิพร แก้วคำบ้ง พ้นจากหน้าที่หัวหน้างานควบคุมแดน 7 ฝ่ายควบคุมผู้ต้องขัง โดยให้ไปปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ประจำฝ่ายบริหาร ส่วนบริหารทั่วไป และห้ามเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำเกี่ยวข้องกับผู้ต้องขัง เพื่อความโปร่งใส และไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการสอบข้อเท็จจริง

 

 

 

พันตำรวจโทเชน กล่าวว่า คำสั่งย้ายดังกล่าวเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อเท็จจริง สืบเนื่องจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งคณะกรรมการจะมีบุคคลจากหน่วยงานภายนอกร่วมด้วย หากผู้คุมสิทธิพร ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ก็จะทำให้ไม่สะดวกในการเข้าสอบปากคำ จึงมีคำสั่งย้ายจากการปฏิบัติงานเป็นผู้คุมแดน 7 มาอยู่ฝ่ายธุรการ ไม่ได้อยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งเป็นการลดบทบาท แต่ยังไม่ได้หมายความว่ามีความผิด แต่เวลาที่ไปสอบผู้ต้องขังจะได้ให้การอย่างสบายใจ ไม่ถูกกดดัน

ซึ่งในขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ทำหนังสือไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่งชื่อกรรมการมา หากได้ครบก็จะเริ่มประชุมได้เลย เชื่อว่าในระยะ 30 วันแรก จะได้ความคืบหน้าพอสมควร ซึ่งในการตรวจสอบจะต้องถามทุกประเด็น รวมถึงประเด็นหนังสือร้องเรียนที่แม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ส่งมาด้วย โดยหนังสือร้องเรียนของแม่อดีตผู้กำกับโจ้ ได้มีการลงนามส่งมาถึงกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา จึงได้ตั้งเรื่องไว้แล้วว่าจะตั้งกรรมการตรวจสอบ โดยมีผู้ตรวจราชการเป็นหัวหน้าคณะกรรมการ แต่เมื่ออดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิตลง จึงต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ยืนยันว่า ผู้คุมสิทธิพร ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ถูกร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ และกระแสข่าวที่ว่ามีผู้ใหญ่ของกรมหนุนหลังนั้น ตนเองไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจสอบที่อธิบดีฯ ตั้งขึ้นมานี้ จะต้องตรวจสอบทุกเรื่องอยู่แล้ว และก็มีบุคคลภายนอกร่วมเป็นกรรมการด้วย รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอดีตผู้กำกับโจเองก็เป็นตำรวจ และยังมีฝ่ายปกครอง นักนิติวิทยาศาสตร์ และกลุ่มแพทย์ ซึ่งจะมีความหลากหลายเชื่อว่าผลการตรวจสอบ จะออกมาในทิศทางที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด

 

 

สำหรับผู้คุมสิทธิพร นั้น ได้เคยเรียกมาสอบถามครั้งหนึ่งแล้วในวันที่เกิดเหตุ เพราะมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งเท่าที่ดูภาพลักษณ์ไม่ได้ดูเป็นคนดุดัน และเขายืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับอดีตผู้กำกับโจ้ แต่เป็นการกวดขันวินัยผู้ต้องขังตามปกติ ซึ่งเวลาที่ผู้ต้องขังเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็จะมีความเครียดอยู่แล้ว และอดีตผู้กำกับโจ้ นั้น เคยเป็นตำรวจ แต่ผู้ต้องขังคนอื่นเคยเป็นโจร ดังนั้น จึงมองภาพต่างกัน คนเคยบังคับใช้กฎหมาย พอเห็นอะไรที่คิดว่าไม่ถูกต้องก็จะบอก แต่ผู้คุมจะคอยกวดขันว่าสิ่งใดปรับได้ หรือไม่ได้ แต่ยืนยันว่า ไม่ถึงขั้นจะต้องทำให้เสียชีวิต ส่วนสื่อลามก กับยาเส้น นั้นถือว่าเป็นสิ่งของที่มีความผิด หากนำเข้าไปใช้ในเรือนจำจริง ผู้คุมที่รับรู้ต้องมีความผิดทางอาญาด้วย ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้ใช้ชุดจู่โจมตรวจสอบอยู่ตลอด ก็ยอมรับว่ามีพบบ้าง ไม่ใช่ไม่มีเลย ส่วนผู้ต้องขังคนที่ถูกระบุในหนังสือร้องเรียน ก็ต้องถูกตรวจสอบเช่นกัน

 

ทั้งนี้พันตำรวจโทเชน ย้ำถึงกรณีที่ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายที่ สน.ประชาชื่น ว่า ตามกฎกระทรวงมีกำหนดไว้ว่าการจะแจ้งความดำเนินคดี จะต้องทำผ่านผู้บัญชาการเรือนจำให้พิจารณาเป็นเรื่องไป เพื่อให้มีการควบคุม เพราะในเรือนจำกลางคลองเปรม มีผู้ต้องขังมากกว่า 6 พันคน หากไม่มีระเบียบกฎเกณฑ์ ทุกคนก็จะแต่งตั้งทนายความไปแจ้งความกันเองหมด ทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้นไปอีก แต่กรณีนี้ที่ยังไม่ได้ให้พนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ไม่ให้เข้า แต่ให้ไปตรวจสอบดูก่อน เพราะระเบียบกำหนดว่า ทางสถานีตำรวจต้องทำหนังสือผ่านผู้บัญชาการเรือนจำก่อน และช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนผู้บัญชาการเรือนจำพอดี จึงทำให้สังคมเกิดความสงสัยได้

 

ส่วนที่ตอนนี้ ครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้ รู้สึกไม่มั่นใจในการตรวจสอบของกรมราชทัณฑ์นั้น รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า เห็นใจครอบครัว เพราะก็เคยพูดคุยกัน เห็นเข้ามาเยี่ยมอดีตผู้กำกับโจ้ตลอด อีกทั้งตนเองก็เป็นรุ่นพี่โรงเรียนนายร้อยตำรวจของอดีตผู้กำกับโจ้ จึงเข้าใจ จะไม่ยอมให้ต้องตายฟรี จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ และครอบครัวสามารถประสานขอเข้ามาตรวจสอบในเรือนจำได้ตลอด เชื่อว่าเรื่องนี้จะค่อยๆ คลี่คลาย เบื้องต้นผลทางนิติวิทยาศาสตร์ก็บอกแล้วว่า ที่คอไม่มีแผลอื่น ส่วนรอยเลือด คือ น้ำเหลืองที่ผสมเลือด หยดติดพื้น และแพทย์ก็ได้ผ่าตรวจภายในร่างกายโดยละเอียดไปแล้ว รอผลประมาณ 1 เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สาวสุดผวา เล่าประสบการณ์ เรียกรถผ่านแอปฯ ถูกคนขับลวนลาม-เรียกเงินเพิ่ม
"กรมราชทัณฑ์" พาทัวร์เรือนจำกลางระยอง คุกซูเปอร์แม็กซ์ 1 ใน 5 ของไทย
นาทีระทึก "รถทัวร์" เสียหลักพุ่งชน "รถพ่วง" บริเวณขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา เจ็บเพียบ
ระบบหลัก 'ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์' รุ่นใหม่ของจีน ผ่านการตรวจรับแล้ว
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีโต้ซ้อมรบสหรัฐ-เกาหลีใต้
"ทนายความ ผกก.โจ้" แจงผลชันสูตรรอบ 2 ยังไม่ออก คาดอีก 2-3 สัปดาห์ชัดเจน
มติ ป.ป.ช. เอกฉันท์ ชี้มูล "เต้ มงคลกิตติ์" ผิดจริยธรรมร้ายแรง โพสต์ใส่ร้าย "ศักดิ์สยาม" อดีตรมว.คมนาคม
"รัฐมนตรี" แถลงยึดบุหรี่ไฟฟ้า ลอบนำเข้าจากจีนกว่า 200,000 ชิ้น
"แม่ฮ่องสอน" ผวา! "ทัพพม่า" ขนอาวุธหนักถล่มกะเหรี่ยง - ฐานที่มั่นคืนแตกอีก 1
ครอบครัวเคลื่อนร่าง ‘อดีตผกก.โจ้’ ไปวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ประกอบพิธีทางศาสนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น