สหรัฐฯตัดทิ้งโครงการ USAID 83%

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เคาะแล้วหลังใช้เวลา 6 สัปดาห์ ว่า โครงการความช่วยเหลือขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือ USAID จะถูกตัดทิ้ง 83% ส่วนที่เหลือจะได้ไปต่อ ภายใต้การกำกับของกระทรวงต่างประเทศ และสนองตอบผลประโยชน์แห่งชาติยุคทรัมป์

 

รูบิโอ ประกาศผ่านการโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวาน (10 มีนาคม) ว่าการทบทวนความช่วยเหลือทั่วโลกของ USAID เสร็จสิ้นลงแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมีโครงการถูกตัดทิ้งราว 5,200 โครงการ จากทั้งหมด 6,200 โครงการ / โครงการที่รอดมาได้ไม่ถึง 1 ใน 5 (ราว 18%) จะอยู่ในความดูแลของกระทรวงต่างประเทศ

คำประกาศของรูบิโอ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบ 60 ปี ของโครงการความช่วยเหลือภายใต้การดูแลของ USAID ที่ถูกสั่งปิดชั่วคราว ตามคำสั่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะทำงานของหน่วยงานเพื่อประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE นำโดยอีลอน มัสก์

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า โครงการที่ถูกตัดทิ้ง ใช้จ่ายเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปในทางที่ไม่ตอบสนองผลประโยชน์แห่งชาติหลักของสหรัฐฯ บางโครงการกลายเป็นอันตรายด้วยซ้ำ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะบริหารโครงการ USAID ที่เหลือ 18% อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รูบิโอ กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของเราทำงานอย่างหนัก เพื่อให้การปฏิรูปครั้งประวัติศาสตร์ด้านความช่วยเหลือต่างประเทศนี้บรรลุผล และยังได้กล่าวขอบคุณ DOGE แม้สื่อรายงานว่าเขามีปากเสียงกับมัสก์ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ตอบคำถามสื่อ ที่พยายามขอรายละเอียดว่า ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจยกเลิกหรือให้โครงการไหนยังอยู่ต่อ และไม่ตอบว่า การตัดทิ้งโครงการเหล่านี้โดยไม่ผานความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีชัดเจนว่า ความช่วยเหลือต่างประเทศต่อจากนี้จะเป็นไปตามนิยามผลประโยชน์แห่งชาติสหรัฐฯที่จำกัดวงแคบจากเดิม อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เคยระบุในเอกสารยื่นต่อศาลว่า โครงการ USAID จะถูกตัดทิ้งถึงกว่า 90% หรือเกือบ 5 พัน 800 โครงการ แต่รูบิโอไม่ได้อธิบายว่า เหตุใดตัวเลขนี้จึงลดลง และกระทรวงต่างประเทศจะบริหารโครงการเหล่านั้นอย่างไรต่อไป

USAID บริหารงบหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อบรรเทาความยากจน รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ภาวะอดอยาก ภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการสร้างประชาธิปไตยและการพัฒนา ผ่านการให้ทุนสนับสนุนองค์กรนอกจากรัฐ หรือ NGO สื่ออิสระและโครงการริเริ่มทางสังคม งานเหล่านี้ส่วนใหญ่หยุดชะงักตั้งแต่รัฐบาลทรัมป์รับตำแหน่งใหม่ ๆ เมื่อเดือนมกราคม โดยกล่าวหาว่ามีการใช้งบไปในทางที่ผิดและฉ้อฉล

การปิดสำนักงานชั่วคราว สั่งพักงานหรือเลิกจ้างจำนวนมากอย่างกะทันหัน นำไปสู่การฟ้องร้องหลายคดี สัปดาห์ที่แล้ว ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง มีคำวินิจฉัยเปิดทางให้รัฐบาล เดินหน้าปลดพนักงานคู่สัญญาของ USAID เกือบ 800 คน ในประเทศรายได้สูงและปานกลาง เช่น มอลโดวา ไทย และสหรัฐฯเอง เนื่องจากไม่สอดคล้องกับภารกิจของ USAID ที่มุ่งช่วยเหลือประเทศรายได้ต่ำ แต่อีกคำพิพากษาในสัปดาห์เดียวกัน ศาลตัดสินให้รัฐบาลทรัมป์ ต้องจ่ายเงินเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สำหรับงานมนุษยธรรมที่ได้ดำเนินการไ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เนวิน" ขอบคุณ "นายกฯ-สรวงศ์" หลังรัฐบาลยืนยันเตรียมต่อสัญญา MotoGP อีก 5 ปี
MEA ยกระดับความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี GPR ตรวจสอบโพรงใต้ถนนรอบบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน
กรมวิชาการเกษตร หนุนใช้ลายพิมพ์เปปไทด์สร้างจุดแข็ง ยกระดับความน่าเชื่อถือสินค้าเกษตรไทย นำร่องส้มโอขาวแตงกวาสู่มาตรฐานสากล
"พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ" นำทีม 81 สว.ยื่นป.ป.ช.เอาผิด "ทวี-อธิบดี DSI" ชี้มิชอบไม่มีอำนาจสอบปมฮั้ว
เปิด "ยะลาโมเดล" ชวนฟังเคล็ดลับสร้างเมืองสุขภาพดี จากนายกฯ พงษ์ศักดิ์ ที่งาน Active City Forum
"ทวี" จัดหนักใช้อำนาจ "นายกฯ" เร่งตั้งคกก.สอบฮั้ว แย้มกว่า 140 สว.เข้าคิวโดนเรียก
อีกแล้ว "รัฐสภาหมื่นล้าน" เกิดท่อน้ำแตก แม่บ้านแห่เคลียร์ด่วน
โซเชียลกดไลค์รัว "พงศ์พรหม" สะท้อนภาพความกล้า "มาดามแป้ง" ไม่ก้มหัวให้คนทำผิด
"ผกก.โจ้" เป็นเหตุ "กรมราชทัณฑ์" ส่งรองอธิบดีฯ นั่งควบผบ.คุกเรือนจำคลองเปรม
"ผู้นำอิหร่าน"กร้าวท้าทาย ตอกเจ็บ"ทรัมป์"อยากจะทำบ้าอะไรก็เชิญย้ำไม่คุยด้วย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น