ภายหลังจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม. ได้อนุมัติงบประมาณงบกลาง โครงการจัดหาชุดเครื่องผลิตสารฝนหลวงสูตร 3 น้ำแข็งแห้ง ประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 200 ล้านบาท
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อติดตั้งในพื้นที่ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง 4 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดตาก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดบุรีรัมย์
และจังหวัดขอนแก่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงในการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการดัดแปลงสภาพอากาศให้บรรเทาปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก นั้น
ด้าน นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงสาระสำคัญของแผนรองรับการเพิ่มประสิทธิภาพแก้ปัญหาภัยแล้งและฝุ่น PM 2.5
โดยกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีภารกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในชั้นบรรยากาศแบ่งเป็น ปฏิบัติการฝนหลวง
เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ และปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อป้องกันแก้ไขบรรเทาภัยพิบัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีความต้องการใช้น้ำแข็งแห้งในการปฏิบัติการฝนหลวง ขั้นตอนการโจมตีปีละ 2,240 ตัน และมีความต้องการใช้น้ำแข็งแห้ง ในการระบายฝุ่นละออง ใต้ชั้นอุณหภูมิผกผัน
สู่ชั้นบรรยากาศด้านบน เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ปีละ 3,600 ตัน รวมเป็นความต้องการใช้น้ำแข็งแห้งทั้งสิ้น ปีละ 5,840 ตัน
แต่ปัจจุบันกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้รับการสนับสนุนน้ำแข็งแห้งจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวน 600 ตัน/ปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน