วันนี้ (3 ต.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาในช่วงที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้มีน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จนถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มมีอัตราการระบายน้ำคงที่ โดยที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน อยู่ที่ 2,640 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.10 เมตร/รทก. มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.19 เมตร/รทก. และเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 2,775 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นอกจากนี้ทางกรมชลประทาน ได้มีการออกหนังสือ แจ้งเตือนไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พื้นที่ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเป็นการควบคุมผลกระทบจากน้ำท่วมไม่ให้ขยายวงกว้าง ทางกรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ โดยระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 เซนติเมตร ทำให้มีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบอยู่ที่บริเวณอำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ และอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ที่อำเภอเมือง จ.อุทัยธานี และ ที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยน้ำจะเอ่อล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งเข้าพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมน้ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานจึงขอแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาขอให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด