กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทั่วกาซาเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 มีนาคม) หลังนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู และนายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อนุมัติแผนการโจมตีเมื่อสุดสัปดาห์ และสั่งให้จัดการอย่างรุนแรง หลังจากฮามาสปฏิเสธปล่อยตัวประกันที่เหลือ กองทัพอิสราเอล ระบุว่า การโจมตรีพุ่งเป้าผู้ก่อการร้ายของฮามาส ขณะเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขในกาซาในความดูแลของฮามาส ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 130 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน หนึ่งในผู้เสียชีวิต คือนายมาห์มูด อาบู วัตฟา เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของฮามาส
รอยเตอร์ส อ้างผู้เห็นเหตุการณ์และกู้ภัยในเบื้องต้นว่า จุดที่ตกเป็นเป้าโจมตีทางอากาศและระดมยิงปืนใหญ่ ได้แก่ บ้านสามหลังในเมือง เดอีร์ อัล บัลเลาะห์ ทางตอนกลางของกาซา อาคาร 1 หลังในกาซาซิตี้ ทางเหนือ และอีกหลายจุดใน ข่าน ยูนิส และราฟาห์ ทางใต้ของกาซา
แถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ไม่ได้บอกชัดเจนว่า การถล่มครั้งนี้จะหมายถึงการกลับมาใช้ปฏิบัติการทหารกับฮามาสอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ แต่อ้างว่า การโจมตีมีขึ้นหลังจากฮามาสปฏิเสธปล่อยตัวประกัน และข้อเสนอทุกอย่างที่มาจาก สตีฟ วิตคอฟ ทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ และจากผู้ไกล่เกลี่ย จากนี้ไป อิสราเอลจะลงมือจัดการกับฮามาสด้วยความแข็งแกร่งทางทหารที่เพิ่มมากขึ้น
อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า ประตูนรกจะเปิดในกาซา และฮามาสจะโดนถล่มด้วยพลังแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หากยังไม่ปล่อยตัวประกันที่ยังเหลือ 59 คน อิสราเอลจะไม่ยุติการต่อสู้ จนกว่าตัวประกันจะได้กลับบ้าน และบรรลุเป้าหมายสงครามทั้งหมด
ครอบครัวตัวประกันแย้งมาตลอดว่า เป้าหมายสงครามอิสราเอล สวนทางกับเป้าหมายปล่อยตัวประกัน การกลับมาทำสงครามเพื่อถอนรากถอนโคนฮามาส จะทำให้ชีวิตตัวประกันตกอยู่ในอันตราย
ฮามาส ออกแถลงการณ์ว่า เนทันยาฮูและรัฐบาลสุดโต่งของอิสราเอล กำลังตัดสินใจคว่ำข้อตกลงหยุดยิง และทำให้ตัวประกันในกาซา ตกอยู่ในชะตากรรมที่ไม่อาจรู้ได้ ฮามาสเรียกร้องให้ผู้ไกล่เกลี่ยหยุดยิง ถือว่าอิสราเอลเป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบ และขอให้สันนิบาตอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ IOC ช่วยทลายการปิดล้อมกาซาอย่างไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ฮามาสยืนกรานว่าจะยึดเงื่อนไขเดิมของแผนหยุดยิง นั่นคือการเข้าสู่การเจรจาเฟสสอง ที่จะนำไปสู่การถอนทหารจากกาซาและตกลงสงบศึกแบบถาวร แลกกับการปล่อยตัวประกันที่เหลือ ขณะที่อิสราเอลต้องการยืดเวลาข้อตกลงเฟสแรก ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน และปล่อยตัวประกันเพิ่มในระหว่างนี้ ตามข้อเสนอของทูตพิเศษสหรัฐฯ นอกจากนี้ อิสราเอลยังประกาศจะไม่ยุติสงครามจนกว่าฮามาสจะหมดพิษสงทางทหารและอำนาจปกครองกาซา การเจรจาเฟสสองควรเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ แต่อิสราเอลปฏิเสธเข้าร่วม ถึงอย่างนั้น สองฝ่ายไม่ได้สู้รบกันตลอดสองสัปดาห์ครึ่ง นับจากข้อตกลงเฟสแรกสิ้นสุดเมื่อ 1 มีนาคม ขณะที่ประเทศคนกลางพยายามไกล่เกลี่ยเงื่อนไขเพื่อผลักดันการเจรจาให้คืบหน้า
โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่า อิสราเอลหารือกับรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้วก่อนลงมือโจมตี
