นายกฯ กำชับรมต.กลางวงประชุมครม. เตรียมพร้อมข้อมูล ศึกซักฟอก 24-26 มี.ค.นี้
ข่าวที่น่าสนใจ
18 มี.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ว่า การประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า จะเลื่อนออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม 2568 โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านได้เตรียมความพร้อม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันจันทร์ที่ 24 ถึงวันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 นี้ โดยให้เตรียมข้อมูลให้พร้อมในทุกมิติของส่วนราชการ ที่อาจจะมีการอภิปรายไปถึงทุกกระทรวง เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเรื่องการจัดการบุหรี่ไฟฟ้า ตามนโยบายของรัฐบาล ว่า มาตรการจัดการปัญหา และควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าของรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรีได้เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวจิราพร สินธุไพร รับผิดชอบในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ที่เป็นปัญหาที่กระทบต่อสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน โดยได้เน้นย้ำให้จับกุมและลงโทษผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ขาย และหน่วยงานราชการที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ อย่างเด็ดขาด ตลอดจน ขอให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่นักเรียน เพื่อให้ทราบถึงผลเสียของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งอาจจะขยายไปสู่การใช้สารเสพติดประเภทอื่นได้
โดยพบว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ หลังจากที่รัฐบาลได้สั่งการเรื่องปราบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ตัวเลขสถิติการปราบปรามอย่างเห็นผล เป็นที่น่าพอใจ มีการดำเนินคดีในช่วงเวลา 15 วัน ถึง 1,078 คดี ผู้ต้องหา 1,104 คน จำนวนของกลาง 900,444 ชิ้น มูลค่าของกลาง กว่า 120 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะไปตรวจ และเป็นประธานในการทำลายของกลางภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ได้กำชับให้ทางกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินการร่วมกันในทุกมิติเพื่อแก้ไขปัญหา โดยนางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้รายงานว่า กระทรวงฯ ได้ออกมาตรการ และกำชับให้ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตระหนักว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากตรวจพบว่าบุคลากรทางการศึกษาคนใด ปล่อยปละละเลย หรือรู้เห็นเป็นใจ หรือและยังนำบุหรี่ไฟฟ้ามาใช้ จะถูกดำเนินการทางกฎหมาย และทางวินัย เพราะบุคคลเหล่านี้จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ให้แก่เด็กและเยาวชน
นายจิรายุ กล่าวอีก นายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นมาตรการที่ดี ที่ข้าราชการทุกท่านในหน่วยราชการอื่นๆ ต้องนำไปปฏิบัติใช้ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และจะเป็นการลดปริมาณบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากไม่มีผู้ใช้แล้ว ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายก็จะหมดไปตามลำดับ จึงขอให้กระทรวงต่างๆ นำมาตรการดังกล่าว ไปปรับใช้อย่างเหมาะสม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น