วันนี้ (4 ต.ค. 64) เวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กทม.และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม หน่วยบริการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา กทม.จุดบริการที่ 2ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมโรงเรียนประชานิเวศน์ โดย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงการฉีดวัคซีนในวันนี้จะฉีดวัคซีนไฟเฟอร์ จำนวน 135,000 โดส ให้กับเด็กนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือเทียบเท่าที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จนถึง 18 ปี โดยผู้ปกครองต้องแสดงความประสงค์ยินยอมอนุญาตให้รับการฉีดวัคซีน และฉีดพร้อมกันทั่วประเทศ จำนวนกว่าแสนคน และยังกล่าวให้คำแนะนำกับเด็กๆในวันนี้ และเชื่อว่าการติดเชื้อจะลดน้อยลง และจะทำการหารือร่วมกันถึงการแนวทางการเปิดภาคเรียนที่ต้องได้รับการอนุมัติจากศบค. ซึ่งเด็กหลายคนอยากเรียนแบบลักษณะที่มีคุณครูสอนมากกว่าการเรียนออนไลน์ และคาดว่าภายในเดือนนี้จะฉีดให้เด็กครบทั่วประเทศ ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองยังไม่ยินยอมก็จะยังไม่สามารถฉีดได้
ด้านนพ.ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่ยังมีเด็กที่ผู้ปกครองยังไม่ยินยอมให้ฉีดวัคซีน ต้องมีการประเมินประเมินดูว่าจำนวนเด็กที่ยังไม่รับการฉีด และดูเงื่อนไขปัจจัยอื่นๆ ว่าจะมีผลต่อการเปิดภาคเรียนหรือไม่ และยังกล่าวถึงผลข้างเคียงหลังจากการฉีดแล้ว ผลที่พบผู้ชายจะมีมากกว่า จะพบอาการใจสั่นแน่นหน้าอกหายใจไม่สุดเกิด ภายใน 7 วัน ทาง กทม.เตรียมแพทย์ไว้รองรับ
ด้านน.ส.พิมพ์นารา ปั้นฉาก เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กล่าวถึงมารับการฉีดวัคซีน หลังจากฉีดไม่รู้สึกอะไรยังไม่มีอาการอะไรและมองว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่รับการฉีดวัคซีนก็จะมีการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนมาฉีดรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก ได้มีการศึกษาวัคซีนมาเพียงเล็กน้อย หลายคนให้กำลังใจ ก็ได้มีการพูดคุยกับเพื่อนบ่อยๆ เพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องกังวลให้มาฉีดดีกว่า เพระจะได้กลับมาเปิดเรียน เพราะเรียนออนไลน์เรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง งานเยอะ สื่อสารกับครูเป็นไปด้วยความยากลำบาก อยากเชิญชวนเพื่อนที่ยังรับการฉีดว่าให้มารับการฉีดดีกว่าที่จะไม่ฉีดเพราะหากติดเชื้ออาการก็จะบรรเทาลง
ด้านผู้ปกครอง นางอารดา มีแก้ว อายุ 45 ปี เป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เป็นเด็กนักเรียนหญิงศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมปีที่ 4 กล่าวว่าขณะนี้ลูกสาวของตนเองอยู่ระหว่างการรอคิวในการฉีด ซึ่งคุณแม่รู้สึกกังวลใจแต่ก็ต้องให้ลูกมารับการฉีด ติดตามข่าวพบว่าพบผลข้างเคียง จริงๆแล้วก็กังวลว่าในส่วนที่ไม่ฉีดจะเป็นผลทำให้โรงเรียนไม่ได้รับการเปิดภาคเรียนก็อยากจะแนะนำว่าให้นำลูกมาฉีดเพราะมองว่าฉีดดีกว่าไม่ฉีดโดยส่วนตัวคุณแม่ก็รับการฉีดเป็น 2 เข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนตัวลูกไม่ค่อยกังวลแต่ตัวแม่เป็นห่วง
ถัดมาที่ ผู้ปกครองอีกราย นางชงโค พงษ์เพชร อายุ 48 ปี เป็นผู้ปกครองซึ่งมีลูกชายศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กล่าว แสดงความรู้สึกเห็นด้วยที่วันนี้ลูกมารับการฉีดวัคซีน ซึ่งจะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น ส่วนที่มีการระบุว่าผลข้างเคียงพบในผู้ชายมากกว่านั้น ส่วนตัวก็กลัว ตัวลูกเองก็กลัวและกังวล แต่ด้วยความที่อยู่ในสังคมมีความรับผิดชอบต่อสังคมดังนั้นจึงต้องมาฉีด
ทั้งนี้ กรุงเทพฯ มีนักเรียนในสังกัดระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ทั้งหมดจำนวน 37,466 คนมีผู้ประสงค์รับวัคซีนจำนวน 33,048 คน โดยนักเรียนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันนี้แล้วจะได้รับเข็มที่ 2 ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้โดยจะมีการเว้นช่วงระยะเวลา 3 สัปดาห์
สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในวันนี้ดำเนินการในรูปแบบที่มีสำนักอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการฉีดและสำนักการแพทย์สนับสนุนด้านการแพทย์ฉุกเฉินโดยจัดรถฉุกเฉินประจำตามโรงเรียนที่เป็นจุดฉีดวัคซีนจำนวน 6 จุด โดยที่โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์อยู่ในจุดบริการที่ 2ให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนมัธยมโรงเรียนประชานิเวศน์จำนวน 584 คนดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 17 และให้บริการสำหรับนักเรียนโรงเรียนวิชูทิศจำนวน 272 ดูแลโดยศูนย์บริการสาธารณสุข 4 โรงพยาบาลกลาง