“บิ๊กป้อม” ลุยซักฟอกนายกฯ ซัดเต็มบริหารศก.ผิดพลาด ถก MOU 44 ทำเสี่ยงเสียดินแดน แถมปล่อยคนในครอบครัวแทรกแซงทำงาน – Top News รายงาน
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมญัตติฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้อภิปรายเป็นคนที่สองต่อจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน อย่างไรก็ตามแค่เริ่มอภิปราย นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ทำการประท้วงพลเอกประวิตรทันที โดยบอกว่าไม่เคยเจอพลเอกประวิตรเข้าร่วมประชุม จึงเหมาะสมที่ทำหน้าที่อภิปรายในวันนี้หรือไม่ เพราะตั้งแต่ตนร่วมประชุมสภาฯมาหลายเดือน ตนไม่เคยเห็นท่านมาประชุมสักครั้ง ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ชี้แจงเป็นคนละประเด็น วันนี้พลเอกประวิตรก็มาตามข้อบังคับการประชุม ในฐานะ สส.ฝ่ายค้าน จึงมีสิทธิ์อภิปราย ไม่ได้ผิดข้อบังคับ และขอให้นายก่อแก้วนั่งลง
จากนั้นพลเอกประวิตร อภิปรายถึงนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลว ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่รัฐบาลได้ให้คำสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้านปิดกิจการจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ผิดที่ผิดทาง ประชาชนเกิดปัญหาหนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบ หนี้ครัวเรือนสูงถึง 104% ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดำดิ่ง เศรษฐกิจไทยมืดมน รัฐบาลกลับนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการใดๆ มาแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน จริงๆตนเองพยายามเอาใจช่วยท่านนายกฯให้แก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนได้สำเร็จ เพราะเห็นว่านายกฯเคยบริหารด้านธุรกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้บ้าง แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรี ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซ้ำยังถอยหลังไปอีก จนจีดีพีของไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน และที่สำคัญคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการตัดงบประมาณนับแสนล้านบาทที่ควรจะอัดฉีดเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่นายกรัฐมนตรีกลับเอาเงินก้อนนี้ไปแจกเงิน 10,000 ซึ่งธนาคารโลกและกองทุนไอเอ็มเอฟ ได้ออกมาเตือนแล้วว่าการจ่ายเงินไม่ได้ผล ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆแทน ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีได้ศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างรอบคอบในทุกด้าน วันนี้คนไทยคงจะไม่ลำบากทุกอย่างในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัสเช่นนี้ ท่านจะนำพาประเทศให้รอดพ้น ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร