วันนี้(26 มี.ค.) ที่กรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และฑูตพาณิชย์ ได้เข้านางสาวโรสแมรี่ โนคูโซลา คาปา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ พร้อมคณะ เพื่อ กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและแอฟริกาใต้พร้อมหารือแนวทางความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรตลอดจนให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกำกับดูแลคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตรนำเข้าและส่งออกสำคัญของไทย ณ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง กรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
นายวรวงศ์ เปิดเผยว่า ตนและคณะฯได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการเข้าพบและหารือกับนางสาวโรสแมรี่ โนคูโซลา คาปา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ โดยในการประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ประสบการณ์ทางด้านการค้า การลงทุน การขนส่ง และคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรระหว่างกัน โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้าไทย อาทิ สินค้าข้าวที่แอฟริกาใต้นำเข้าจากไทยมากกว่าร้อยละ 90 รวมถึงผลไม้ อาทิ มังคุดและลำใย และได้ขอให้แอฟริกาใต้สนับสนุนนำเข้ามะม่วงจากไทยด้วย ขณะที่แอฟริกาใต้ ต้องการเปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์อย่างเช่นเนื้อวัวและนกกระจอกเทศ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับต้นของประเทศไปยังไทย
ทั้งนี้ในการหารือพบว่า แอฟริกาใต้มีความสนใจเรื่องเกษตรกรรม จึงต้องการที่จะร่วมมือกับประเทศไทยในการถ่ายโอนความรู้ร่วมกัน ซึ่งทางประเทศไทยก็เห็นด้วย และจะมีการสร้างความร่วมมือร่วมกันเพื่อสร้างความเข็มแข็งให้เกิดขึ้น รวมถึงการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ผ่านคณะทำงานของคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ JTC(Joint Trade Committee)เพื่อยกระดับจากเจ้าหน้าที่เป็นระดับรัฐมนตรีในการหารือร่วมกัน
“ระหว่างการหารือกับ สิ่งที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ พบว่า ประเทศไทยและ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้มีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน ซึ่ง สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ได้เป็นฮับของทวีปแอฟริกา ซึ่งคล้ายคลึงกับไทยที่เป็นฮับในหลายเรื่องของภูมิภาคเอเชีย ไทยจึงเปิดให้มีการค้าระหว่างกัน ดังนั้นในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน ตนเชื่อว่าจะช่วยให้บรรลุ ในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต จากนโยบายของทั้งสองประเทศที่มีความสอดคล้องกันอาทิความต้องการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ/สองต้องการลดความเหลื่อมล้ำและความยากจน/และ3ต้องการเสริมสร้างศักยภาพสินค้าระหว่างประเทศให้ดีขึ้น ”นายวรวงศ์ ระบุ
ขณะเดียวกัน สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ได้อยู่ในกลุ่มสหภาพศุลกากรแอฟริกาใต้ (SACU) จึงได้มีหารือถึงการเจรจาจัดทำ FTA กับสหภาพศุลกากรแอฟริกาตอนใต้ (SACU) เพื่อให้สามารถบรรลุขอตกลงได้โดยเร็วภายในปีนี้หรือปีหน้านี้
“สำหรับสินค้าผลไม้ แอฟริกาใต้ได้เริ่มส่งออกแอปเปิ้ลมายังไทย และยังมีแผนจะส่งเสริมการส่งออกผลไม้ชนิดอื่นมาไทยด้วย ขณะเดียวกันแอฟริกาใต้ได้มีความต้องการนำเข้ามังคุดและลำไยจากไทย ซึ่งฝ่ายไทยได้ขอให้แอฟริกาใต้สนับสนุนนำเข้ามะม่วงจากไทยด้วยเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์ยังยินดีที่จะทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างใกล้ชิดในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเกี่ยวกับสินค้าเกษตรของแอฟริกาใต้ในช่วงพฤศจิกายน 2568 เพื่อให้สินค้าเกษตรส่งออกของไทยเป็นตามมาตรฐานของแอฟริกาใต้ ขณะที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ ของแอฟริกาใต้ ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยที่มีนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายขยายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับนโยบายเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้อีกด้วย” นายวรวงศ์กล่าว