27 มีนาคม 2568 นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “ท็อปนิวส์” กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภารวม 92 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภาและส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงหรือไม่กรณีถูกกล่าวหาใช้ดีเอสไอแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว. โดยให้คู่กรณีชี้แจงภายใน 15 วันว่า สำหรับประเด็นดังกล่าวต้องขอชี้แจงว่า กลุ่ม สว.สีน้ำเงินยื่นคำร้องในนามวุฒิสภาว่า การทำหน้าที่ของนายภูมิธรรม และพ.ต.อ.ทวี ปฏิบัติหน้าที่ขัดมาตรฐานจริยธรรม ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญต้องรับคำร้องไว้พิจารณา แต่กรณีดังกล่าวทำให้ส่งผลดีต่อตนในฐานะผู้ร้องว่า การเลือก สว.ครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ตั้งแต่ปี 2567 จึงทำให้มีข้อมูลอย่างละเอียดในทุก ๆ ด้านทั้งรายชื่อ กลุ่มขบวนการ และเส้นทางการเงินต่าง ๆ ที่จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีที่ตนร้องได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น เพราะเดิมที่ตนต้องมีหนังสือจากศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอเอกสารจากดีเอสไอ แต่ปรากฏว่า เมื่อ สว.สีน้ำเงินช่วยตนในการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องปมจริยธรรมก็จะทำให้ดีเอสไอต้องส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้แจงให้เห็นว่า นายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี ปฏิบัติหน้าที่โดบชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อถามว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องจะไม่ทำให้กระบวนการสืบสวนของดีเอสไอต้องหยุดชะงักหรือไม่ เพราะต้องรอให้ศาลวินิจฉัยก่อน นายณฐพร กล่าวว่า เรื่องนี้ สว.สีน้ำเงินร้องในประเด็นจริยธรรมของนายภูมิธรรม และพ.ต.อ.ทวี แต่ไม่ได้ร้องว่าดีเอสไอกระทำความผิด ดังนั้นจึงทำให้ดีเอสไอสามารถเดินหน้าในการสืบสวนสอบสวนในคดีฟอกเงินต่อไปได้ และส่วนตัวมั่นใจว่า ดีเอสไอมีพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า กระบวนการเลือก สว.ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามข้อกล่าวหาจริงในคดีฟอกเงิน ส่วนคดีในเรื่องมาตรฐานจริยธรรมของนายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวีนั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็พิจารณาไปตามกระบวนการ เพราะเป็นคนละประเด็นกับเรื่องที่ดีเอสไอสืบสวนสอบสวน