สำนักข่าว NDTV และซินหัวอ้างรายงานสื่อท้องถิ่นเผยว่ารัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมขอความช่วยเหลือจากนานาชาติหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ 7.7 และ 6.4 แมกนิจูด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (ศุกร์ที่ 28 มีค.) ใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์และจังหวัดสะกาย ทางตอนกลางของเมียนมา โดยเกิดลึกลงไปเพียง 10 กิโลเมตร ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักที่มัณฑะเลย์และจังหวัดสะกาย ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 คน โดย 10 คนอยู่ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในมัณฑะเลย์ที่พังถล่มลงทั้งหลังระหว่างที่ประชาชนกำลังเข้าไปละหมาดวันศุกร์ แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันก็มีรายงานอาคารบ้านเรือนพังถล่มจำนวนมากที่เขตมัณฑะเลย์ ขณะที่ถนนหลายสายที่เชื่อมมัณฑะเลย์และนครย่างกุ้งได้รับความเสียหายและถูกตัดขาด นอก่จากนี้ก็มีรายงานว่าหลังคาทางเข้าโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเนปิดอว์พังถล่มลงมาทับรถยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย ขณะที่โรงพยาบาลอีกแห่งมีรายงานผุ้บาดเจ็บถูกส่งตัวเข้ามารักษาเป็นจำนวนมาก และยังมีรายงานโรงเรียนและอาคารสำนักงานหลายแห่งพังถล่ม
สำหรับสะพานอังวะหรือสะพานเก่าสะกายที่พังถล่มลงมาทั้งหลังมีอายุเก่าแก่ 91 ปี สร้างตั้งแต่ยุคอาณานิยมอังกฤษ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำอิรวดีเชื่อมระหว่างมัณฑะเลย์และสะกาย
ด้านซินหัวรายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้สะเทือนไปถึงนครหลวงเวียนจันทน์ของลาว, กรุงฮานอยของเวียดนาม, มณฑลยูนนานของจีนและหลายพื้นที่ในอินเดียและบังกลาเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียได้ออกมาแสดงความเสียใจและเสนอความช่วยเหลือมายังเมียนมาแล้ว
