“สรรเพชญ” ห่วงสหรัฐรีดภาษีซ้ำเติมศก.ไทย จี้รัฐเร่ง 2 มาตรการแก้ปัญหาจริงจัง

“สรรเพชญ” ชี้วิกฤตเศรษฐกิจจากสงครามภาษีสหรัฐฯ กระทบไทยทั้งระบบ แนะรัฐบาลเร่งเจรจา–ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ก่อนประเทศพัง

“สรรเพชญ” ห่วงสหรัฐรีดภาษีซ้ำเติมศก.ไทย จี้รัฐเร่ง 2 มาตรการแก้ปัญหาจริงจัง – Top News รายงาน

สรรเพชญ

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา ได้แสดงความวิตกกังวลต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐอเมริกา ที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงถึง 37% โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกลับมาสู่เวทีการเมืองด้วยแนวทาง “America First 2.0” ที่เน้นกีดกันทางการค้าและลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า ซึ่งส่งผลให้ตลาดส่งออกของไทยเข้าสู่ความไม่แน่นอนอย่างหนักอีกครั้งรวมถึงกระทบต่อภาคแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

“นี่ไม่ใช่แค่ภาษี แต่คือสงครามการค้ารอบใหม่ที่กำลังทำลายห่วงโซ่เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างไทย ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยกลับไม่แสดงท่าทีเชิงรุกใด ๆ นอกจากการแถลงการณ์ของนายกฯ ว่ามีคณะทำงานแล้วแต่ยังไม่มีอะไรออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน” นายสรรเพชญ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย นายสรรเพชญ ระบุว่า สินค้าที่ได้รับผลกระทบมีทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม อาทิ สินค้าประมง ยางพารา ผลไม้แปรรูป อาหารกระป๋องและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก โดยสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดส่งออกอันดับต้น ๆ ของไทย คิดเป็นประมาณ 20% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ในขณะที่การส่งออกคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของ GDP ประเทศไทย หากตลาดนี้สะดุด ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ

จี้ 2 มาตรการเร่งด่วน รัฐต้องตื่นตัวและลงมือทันที

นายสรรเพชญ ได้เสนอแนวนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลควรดำเนินการโดยทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจ ดังนี้

1.) เร่งเจรจาทางการค้าเชิงรุกกับสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรม
“วันนี้หลายประเทศเริ่มเปิดโต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ แล้ว แต่รัฐบาลไทยยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจน เราไม่สามารถรอให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ได้”

นายสรรเพชญ แนะให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ใช้ทุกกลไกของ “การทูตเศรษฐกิจ” รวมถึงการประสานงานผ่านสถานทูตไทยในวอชิงตันเพื่อเปิดเจรจาโดยตรง พร้อมกับเสนอแนวทางแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เช่น การเปิดรับสินค้าจำเป็นจากสหรัฐฯ อย่างเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของความร่วมมือ

นอกจากนี้ ยังเสนอให้ภาครัฐออกมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ เช่น มาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการที่ยังคงจ้างแรงงานครบจำนวน หรือโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านสถาบันการเงินของรัฐ และการประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขยายเวลาชำระหนี้และให้พักหนี้ระยะสั้นแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

 

2.) ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ – ลดการพึ่งตลาดเดิม สร้างความมั่นคงใหม่
“เราอยู่กับโครงสร้างเศรษฐกิจที่เปราะบางเกินไป พึ่งการส่งออกอย่างเดียว สหรัฐฯ มีอาการไอ เศรษฐกิจไทยก็สะอึกตามทันที รัฐบาลต้องเร่งกระจายความเสี่ยงและส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศให้แข็งแรง”

นายสรรเพชญ เสนอให้รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ด้วยการเร่งกระจายการส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่น เอเชียใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง รวมถึงเร่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศผ่านนโยบายส่งเสริม SME และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และเทคโนโลยีอาหาร

เตือนภัยศรัทธาทางเศรษฐกิจ – ถ้ารัฐยังแจกเงิน ไม่หาทางรอดจริงจัง

นายสรรเพชญ ยังเตือนว่า หากรัฐบาลยังเดินหน้ามาตรการแจกเงินแบบไร้ทิศทาง โดยไม่เร่งสร้างฐานเศรษฐกิจระยะยาว ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะหนักขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยใกล้แตะ “เพดานวินัยการคลัง” ซึ่งทำให้ไม่มีพื้นที่เหลือพอสำหรับการเยียวยาในอนาคตอีกต่อไป

 

“เศรษฐกิจตอนนี้เหมือนเรือรั่ว รัฐบาลเอาน้ำตักใส่ชาวบ้าน แต่ไม่ซ่อมรอยรั่วเลย เมื่อวานนี้ สภาฯ ใช้เวลามากในการจะเลื่อนถกเรื่องกาสิโน แทนที่จะหาข้อยุติเพื่อช่วยคนที่กำลังจะตกงาน ไม่มีออร์เดอร์ ไม่มีรายได้ ผู้ประกอบการแบกรับภาระไม่ไหว ต้องลดภาระด้วยการปลดพนักงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาสำคัญ ผมเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศกำลังตั้งคำถามว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับอะไรกันแน่ เราต้องเปลี่ยนวิกฤตนี้เป็นโอกาส ด้วยการสร้างระบบเศรษฐกิจที่หลากหลายและมั่นคง ไม่ใช่พึ่งตลาดเดียว หรือหลอกตัวเองด้วยนโยบายประชานิยมที่ใช้ไม่ได้ในระยะยาว” นายสรรเพชญ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มีชื่อแล้ว "น้องแมวส้ม" รอดชีวิต ซากตึกถล่ม โซเชียลแห่กดไลค์ รอคัดกรองคนพร้อมรับดูแล
DeepSeek หนุนภารกิจ'กู้ภัยจีน'ในเมียนมา
‘ซิน เคอ หยวน’นัดสื่อ 9 เม.ย.นี้ พร้อมแถลงปมเหล็กเส้นใช้สร้าง ‘ตึก สตง.’
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนจัดประชุมอุปกรณ์ทางการแพทย์ปี 2568 ชูนวัตกรรมล้ำสมัย
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'ทะเลสาบเขิ่นซือหว่าเท่อ'ที่ซินเจียงงดงามดุจภาพวาด
“สว.-ปปร.20” ร่วมกับวัดราชสิงขร บวชสามเณรฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ "ในหลวง" หวังสร้างเยาวชนเป็นพลังสำคัญของชาติ
"ปราชญ์ สามสี" แฉก๊วนปราศรัยปลุกใจเสือป่า อ้างราชอาณาจักร"ปาตานี" โยงสส.สีส้ม ยุยงแยกดินแดน
รัฐบาลยืนยันเดินหน้าช่วยเหลือ "นายจ้าง-ลูกจ้าง" รับผลกระทบเหตุแผ่นดินไหว ให้ความคุ้มครองตามกม. ยึดประโยชน์ทุกฝ่าย
ดีอี เผยสถิติ สแกน “เฟคนิวส์” 1.17 พันล้านข้อความ พร้อมแจ้งเตือนข่าวปลอม-บิดเบือน ปชช.แล้วกว่า 10,000 เรื่อง
"ธรรมนัส" ร่วมผู้ว่าฯพะเยา เดินหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยต้นผึ้ง เผยกักเก็บน้ำ 2 แสนลิตร เป็นประโยชน์ชาวบ้าน เกษตรกร กว่า 700 ครัวเรือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น