นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ทำให้บริเวณประทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่ 23 กันยายน – 4 ตุลาคม 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้น 32 จังหวัด รวม 205 อำเภอ 1,100 ตำบล 7,489 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 2.86 แสนครัวเรือน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้วใน 14 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี และกำแพงเพชร อย่างไรก็ดียังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 18 จังหวัด รวม 80 อำเภอ 447 ตำบล 2,385 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1.04 แสนครัวเรือน ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี
“ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการส่วนราชการในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เร่งเข้าไปสำรวจตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่หลังสถานการณ์กลับสู่ปกติ เพื่อเร่งฟื้นฟูรวมถึงให้สอบถามความต้องการ ความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาต่อไป โดยนายกฯ มีกำหนดการ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ณ จ. นครศรีธรรมราช ในวันที่ 7 ตุลาคม นี้ด้วย” นางสาวรัชดา ฯ กล่าว