ไขข้อข้องใจสังคม "ทนายเกิดผล" ตอบชัด "พีช" มีโอกาสติดคุกหรือไม่ คดีขับปาดกระบะ "ลุง-ป้า" บาดเจ็บสาหัส
ข่าวที่น่าสนใจ
สืบเนื่องจากกรณี ที่นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี ทีมธัญญก้าวหน้า เบอร์ 1 ซึ่งเป็นลูกชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว นักการเมืองดังปทุมธานี ขับรถยนต์หรู BMW ป้ายแดง ปาดหน้าชนรถกระบะของลุงและป้าจนเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาตัวนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 68 นายกฤษฎา หรือนายกเบี้ยว และนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช มาที่โรงพยาบาล เพื่อติดต่อขอเข้าเยี่ยมคุณลุงคุณป้า ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถกระบะสีดำ แต่โดนปฎิเสธการเข้าเยี่ยม ซึ่งทางพีช มีความประสงค์จะชำระค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาล โดยได้นำเงินสด 200,000 บาท ออกมาเพื่อขอฝากเป็นค่ารักษาพยาบาลของคุณลุงคุณป้าในเบื้องต้น แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถรับฝากได้ แต่ถ้าอยากจะเขียนจดหมายฝากถึงคุณลุงคุณป้า ก็สามารถเขียนฝากไว้แล้วทางโรงพยาบาลจะนำไปให้คุณลุงคุณป้า
โดยนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช ได้เขียนจดหมายว่า “ผมนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับทางคุณพ่อ ขอให้คุณลุงคุณป้าหายไว ๆ ครับ ผมขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยครับ วันนี้ผมได้เดินทางมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้า แต่คุณลุงคุณป้ายังไม่อนุญาตให้เยี่ยม และผมได้นำเงินมาเพื่อจะจ่ายค่ารักษา แต่ได้มีทางญาติคุณป้าและคุณลุงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ ผมยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณลุงคุณป้าจนหายเป็นปกติครับ ”
ภายหลัง “กัน จอมพลัง” ได้เปิดใจว่า หากพีชจะจ่ายค่ารักษาพยายาลก็ยินดี พร้อมเปิดทางให้ ยอมถอยคนละก้าว เพื่อจะคุยเรื่องการเยียวยาต่าง ๆ ทำให้ดูเหมือนว่า เหตุการณ์นี้กำลังดำเนินการไปด้วยดี ท่ามกลางการจับตามองของสังคม ถึงบบลงโทษทางกฎหมาย ว่าหลังจากนี้ จะมีการดำเนินคดีกับพีชถึงขั้นติดคุกหรือไม่นั้น
ล่าสุดวันนี้ (21 เม.ย.) รายการจับตาประเทศไทย ทางช่อง Top News ดำเนินรายการโดย คุณสำราญ รอดเพชร และคุณอุบลรัตน์ เถาว์น้อย ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.20-12.05 น. ได้สัมภาษณ์เรื่องราวดังกล่าว ถึงแง่มุมด้านกฎหมายและบทลงโทษ ที่นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “พีช” จะได้รับนั้น จากนี้จะเป็นไปอย่างไรต่อไป กับทางทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง
โดยทางด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เปิดใจ เล่าว่า ตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์จะคลี่คลายไปได้บ้างแล้ว เพราะมีการถอยคนละก้าว เปิดโอกาสให้ พีช หรือน้องพีช ได้จ่ายเงินค่ารักษาให้ลุงกับป้า คู่กรณี ถ้าเขามีความอดทนต่อเนื่อง รักษาคำพูดได้ ก็มีโอกาสที่จะเป็นได้ว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ถ้าเขาไม่เดินหน้า ไม่ยอมเจรจรา แบบนี้คงแย่กว่าเดิม
เมื่อถามว่า จะมีผลต่อการสั่งฟ้องหรือไม่ ทนายเกิดผล กล่าวว่า ถ้าพีชทำเต็มที่ แสดงความจริงใจ สำนึกผิด ขอขมา และรับผิดชอบดูแล ก็มีเหตุให้เชื่อได้ว่า เขาสำนึกผิด เป็นเหตุให้บรรเทาโทษได้ ต้องรอดูด้วยว่า แต่ละข้อหาที่ตำรวจแจ้งนั้น เขาจะรับผิดหรือไม่ ในข้อหาไหน อัยการอาจจะไม่สั่งฟ้อง ถ้าเห็นถึงหลักฐานที่เขาพยายามจะรับผิดชอบ แก้ไข และสำนึกผิด มีการพยายามแก้ไขความผิด ต่อให้ไม่สำเร็จ แต่ก็ถือว่าเขาพยายาม ศาลก็จะพยายามมองเห็นความดีได้
เมื่อถามว่า พีช มีโอกาสจะถูกจำคุก หรือไม่ ในความผิดครั้งนี้ ทนายเกิดผล กล่าวว่า สำหรับตนเองมองว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะตามเหตุการณ์ที่ออกมา ไม่ได้ชัดไปในทางเจตนาฆ่า แต่เป็นการทำร้ายให้บาดเจ็บ ส่วนเขาจะเจตนาหรือไม่นั้น มันอยู่ที่ใจเขา ไม่มีใครรู้ได้ แต่เมื่อตอนนี้เขาออกมาขอโทษ รับผิดชอบ ศาลก็อาจจะเห็นใจ เพียงแต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อน โทษจำคุกอาจจะมี แต่เมื่อเทียบกับหลักฐานที่ศาลจะเห็นให้บรรเทาโทษ กรณีนี้มองว่า เจ้าตัวไม่ได้เจตนาถึงขั้นฆ่า
ส่วนกรณีที่เขาออกมาขอโทษช้าไปนั้น รวมทั้งวันเกิดเหตุก็มีการหนีไปด้วย สังคมอาจจะมองว่า ไม่ได้สำนึกผิดจริง ออกมาทำทุกอย่าง เพราะอยากให้กระแสกดดันเบาลง ศาลจะมองว่า เขาพยายามทำแล้ว ไม่ว่าใครจะบังคับหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับกระแสสังคมกดดัน ศาลจะไม่ได้เอามาตัดสินแน่นอน ว่าเจ้าตัวทำไปเพื่ออะไร อาจจะมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาโทษ แต่ก็ถือว่าได้พยายามทำแล้ว สุดท้ายขึ้นอยู่กับว่า ผู้กระทำความผิด จะอดทนมากพอ เยียวยาผู้เสียหายได้ครบถ้วนได้อย่างที่รับปากหรือไม่
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช ข้อหา ดังนี้ 1. ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีคุณลุง) 2.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (กรณีคุณป้า) 3.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ และ 4.ทำให้เสียทรัพย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง