“พิชัย” แจงรอดูสถานการณ์ เหตุเลื่อนเจรจาสหรัฐฯ ยังเหลือเวลาอีก 70 วัน โดนกำแพงภาษีใหม่

“พิชัย” แจงเลื่อนเจรจาสหรัฐฯ ขอรอดูประเทศอื่นเจออะไรบ้าง บอกรีบเกินไปไม่ดี ช้าเกินไปไม่ได้ เตรียม 2 เรื่องรับมือ คาดสหรัฐฯ กังวลแต่ละประเทศแทรกแซงค่าเงิน

“พิชัย” แจงรอดูสถานการณ์ เหตุเลื่อนเจรจาสหรัฐฯ ยังเหลือเวลาอีก 70 วัน โดนกำแพงภาษีใหม่ – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง แถลงกรณีการเลื่อนเจรจากับสหรัฐฯ ประเด็นกำแพงภาษี ว่า จากสถานการณ์ 10 กว่าวันที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทุกวันสูงขึ้นๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศไทยแต่เกิดกับทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เราจึงมีการหารือ เพราะสิ่งที่เรามองว่าชัดเจน วันนี้อาจไม่ชัดเจนเท่ากับที่เคยคิด ดังนั้นคณะทำงานจึงขอขยับกำหนดเวลาในการพูดคุยกับทางสหรัฐฯ และหารือเพิ่มเติมให้เกิดความชัดเจนโดยเร็วที่สุด

“สาเหตุการเลื่อนเจรจากับสหรัฐฯ เพราะขอรอดูสถานการณ์ก่อน โดยต้องการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ไม่อยากไปเจรจาโดยที่ไม่มีการเตรียมตัวให้รอบด้าน ขอพูดตรงๆ ว่าขออย่าให้เร็วกว่าคนอื่น และอย่าช้ากว่าคนอื่น เร็วไปก็ไม่ดี แล้วถ้าช้ากว่าคนอื่นก็ไม่ดี เหมาะสมที่สุด คือดูก่อนว่าหัวขบวนเขาโดนอะไรบ้าง กลางขบวนโดนอะไรบ้าง เราอยู่กลางๆ เกือบท้าย เราจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร จริงๆ เขาอยากให้ทุกคนไป เพียงแต่จะจัดคิวอย่างไร ส่วนผมอาจต้องละเอียดรอบคอบหน่อย โดยในระหว่างนี้ที่เหลือเวลาอีกประมาณ 70 วัน เชื่อว่าทุกคนร้อนใจ”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายพิชัย กล่าวว่า มีเกือบร้อยประเทศที่เกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้มีประเทศที่ได้คุยแล้วแค่ประเทศเดียว ทำให้ต้องมาดูกรอบการพูดคุยของประเทศที่มีการค้าใหญ่กว่าไทย ทั้งนี้แม้การพูดคุยจะขยับออกไป แต่ในระดับปฏิบัติการยังไม่หยุด โดยใช้สถานเอกอัครราชทูตไทยในสหรัฐฯ เป็นฐาน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทุกส่วนอยู่ตรงนั้น และมีทีมที่เข้าใจเรื่องกำแพงภาษี ทำงานคู่ขนานไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราคุยกันในระดับปฏิบัติการ เข้าใจตรงกัน จะได้นำไปสู่การทำข้อมูลว่าครบถ้วนหรือไม่ และต้องดูการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม เพื่อนำไปสู่การหารือระดับสูง

นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโลกนี้ ทุกประเทศมีปัญหาหมด เพราะระบบการค้าของโลกปรับจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกคนมีปัญหาต้องปรับตัว เราจึงเตรียมการไว้ 2 เรื่อง คือ 1.การทบทวน เพื่อความชัดเจน 2.เตรียมการคู่ขนานช่วยเหลือ ฟื้นฟู และปฏิรูป

โดยในการช่วยเหลือ ต้องหารือกับ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ถึงแผนการรับมือหากเศรษฐกิจตกต่ำ ว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง ส่วนการฟื้นฟูหรือเยียวยา ต้องคุยกับเจ้าของเงิน คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินว่าจะเกิดอะไรในอนาคต และจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร ถือเป็นการให้การบ้าน และตนจะไปติดตาม

ส่วนการปฏิรูป กรณีมีการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น มาประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปประเทศอื่น หรือ การสวมสิทธิ์ส่งออกสินค้า ต้องมีการปรับปรุง กำหนดหลักเกณฑ์กติกาการส่งออก ให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส ในลักษณะที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ และชี้วัดว่าสินค้าใดเป็นสินค้าสวมสิทธิ์ รวมถึงต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

นายพิชัย กล่าวว่า หนึ่งในประเด็นที่คาดว่าสหรัฐฯ มีความกังวลและจะหยิบยกขึ้นพูดคุยคือเรื่องของค่าเงิน เมื่อสหรัฐฯ ต้องการส่งออก จึงหวังว่าประเทศต่างๆ จะไม่เข้าไปแทรกแซงค่าเงิน

นายพิชัย เปิดเผยอีกว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเดินทางไปเจรจาในช่วงใด เพราะต้องดูการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐ ฯ และสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะการเจรจาดังกล่าวเหมือนการเจรจาธุรกิจ ตนขอใช้ประสบการณ์ส่วนตัวเข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดชมฟรี 5 วันเต็ม "รมว.ปุ๋ง" ชวนสัมผัสเสน่ห์พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน รื่นเริง การแสดงศิลปวัฒนธรรมแบบเต็มอิ่ม งานฉลอง 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์
"อัยการคุ้มครองสิทธิฯ" เยี่ยมครอบครัวเหยื่อ ตึก สตง.ถล่ม
ศาลอนุญาตให้ประกัน 3 ผู้ต้องหาคนไทย คดีนอมินีไชน่า เรลเวย์ฯ แล้ว
"ทบ." ขอแสดงความเสียใจ ครอบครัวผู้เสียชีวิต ปมอุบัติเหตุรถยนต์ทหาร เฉี่ยวชนกับจยย.พ่วงข้าง
สำนักวาติกันเตรียมจัดพิธีศพโป๊ปเสาร์นี้
"นายกฯ" ถกเข้มมาตรการสวมสิทธิ์สินค้าไทย จ่อปรับ กม.-เพิ่มบทลงโทษ
สหรัฐจ่อเก็บภาษีโซลาร์เซลล์ไทย 375%
ไฟไหม้เที่ยวบินเดลต้าเร่งอพยพผู้โดยสารอเมริกัน
โป๊ปสิ้นพระชนม์จากภาวะหัวใจล้มเหลว
“พิชัย” เปิดเวที Agri Plus Award 2025 ปลุกเร้านักคิดไทย ร่วมพัฒนานวัตกรรมใหม่ เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร แข่งตลาดโลก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น