“สุดารัตน์” มั่นใจก่อนเลือกตั้ง “เพื่อไทย” เอาคืน “มหาดไทย” แน่ มองโอกาสผลักภท.เป็นฝ่ายค้าน ยัง 50:50
ข่าวที่น่าสนใจ
23 เม.ย.2568 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวประเมินสถานการณ์การเมืองในช่วงต่อจากนี้ว่า นายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา ไม่ลาออกแน่นอน การันตีได้เลย และรัฐบาลจะอยู่กันไปแบบนี้ ถ้าเพื่อไทยคิดว่าเขาจะดึงงูเห่าได้เยอะพอ ก่อนหน้านี้ก็ดึงงูเห่าพรรคไทยสร้างไทยไปแล้ว หากดึงงูเห่า ซื้อตัว เอาตำแหน่งไปหลอกล่อ ได้เยอะพอ ก็อาจมีความมั่นใจที่จะกล้าหักกับพรรคภูมิใจไทย แต่วันนี้ยังคิดว่ายัง 50-50 อยู่ ก็อาจจะรออีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ไม่ได้แช่ง แต่คือกรณีพรรคประชาชนเขามีคดีติดค้างอยู่ แกนนำรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเขาอาจมองจังหวะนี้ แต่วันนี้ก็บี้กันไปบี้กันมา ตบจูบ จึงไม่เชื่อว่าจะมีปรับใหญ่ อย่างมากก็แค่ต่อรองกัน อาจจะปรับในพรรคเพื่อไทยเยอะหน่อย แต่ถึงขนาดเอาพรรคภูมิใจไทยออก ยัง 50-50
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ยังเชื่อว่าท้ายที่สุดก่อนยุบสภาฯ เขาต้องยึดกระทรวงมหาดไทยคืนแน่ เพื่อสร้างกลไกช่วยเหลือตัวเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ไม่มั่นใจว่าจากเสียงที่มีขณะนี้แล้วจะไปสู้ศึกกับ สว. เขาจะกล้าทำหรือไม่ แล้วก็ยังมีโปรเจกต์ที่ส่อไปในเชิงทุจริตเชิงนโยบาย ที่ผู้มีอำนาจจะได้เงิน ได้ผลประโยชน์อีกหลายโครงการที่กำลังรออยู่ ถ้าตกลงผลประโยชน์กันลงตัว แล้วแบ่งกัน ก็เลยมองว่าปรับใหญ่อาจจะ 50-50 แต่ไม่ช้าไม่นาน ก็จะปรับใหญ่แล้วก็จะยึดกระทรวงมหาดไทยคืนแน่
ส่วนภาพรวมการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลเวลานี้ คุณหญิงสุดารัตน์ มองว่าเป็นลักษณะตบจูบกันไป และจะมีความขัดแย้งที่มองไม่เห็น ซึ่งในอนาคตคงจะมีให้เห็นอีก อย่างในช่วงที่ผ่านมาก็มีเรื่องใหญ่หลายเรื่อง เช่นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ-นโยบายเกี่ยวกับกัญชา จนมาถึงเรื่องนโยบายการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ให้มีการสร้างบ่อน รวมถึงกรณีการสอบสวนการฮั้วเลือกสว.ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะทำให้เกิดการต่อรองกัน
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวอีกว่า เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีข่าวอยู่ช่วงหนึ่งว่าอาจจะให้ไปตั้งในพื้นที่เลือกตั้งของพรรคการเมืองหนึ่ง จนเกิดกระแสออกมาบอกว่า เห็นด้วยกับนโยบาย แต่เชื่อว่าก็คงมีคนรุ่นใหม่ ที่เขาอยู่ในพรรคการเมืองดังกล่าวแล้วมีความห่วงใยประเทศ ก็อาจไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้อย่างที่ผู้มีอำนาจไปตกลงกัน เห็นได้จากเสียงสะท้อนที่ออกมาเช่น นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนเรื่องสว.ก็คือกรณีที่มีความพยายามจะนำองค์กรที่อยู่ใต้อาณัติของรัฐบาลมาเล่นงาน สว. ทั้งที่หาก กกต.ทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ก็จะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว เลยกลายเป็นเรื่องการเมือง สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงรอยร้าวที่เป็นเรื่องของความพยายามต่อรองอำนาจที่ต้องการนำมาแบ่งกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น