นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือ 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มลดลง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ลดลง 84 เซนติเมตร อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ลดลง 90 เซนติเมตร อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ลดลง 66 เซนติเมตรซ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดลง 34 เซนติเมตร เขื่อนพระราม 6 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน ลดลง 23 เซนติเมตรคลองระพีพัฒน์รับน้ำ 183 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มลดลงทุกสถานี ดังนี้ สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 2,451 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ลดลงเล็กน้อยประมาณ 6 เซนติเมตร ด้านเขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือ 2,545 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนลดลง ดังนี้ อำเภอมือง จังหวัดสิงห์บุรี ลดลง 7 เซนติเมตร อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ลดลง 4 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่งอีกระลอก ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี มีแนวโน้มสูงขึ้นและท่วมขังที่ลุ่มต่ำ บริเวณพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง อำเภอบางปะหัน อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากจะมีฝนตกหนักอีกระลอกในวันที่ 11-16 ตุลาคมนี้