วันนี้ (12 ต.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากในช่วงที่ผ่าน สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ในขั้นวิกฤต ส่งผลทำให้บ้านเรือนของประชาชนหลายพื้นที่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วม ประชาชนต้องอพยพมาอาศัยอยู่บนที่สูง ล่าสุดสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เริ่มมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,298 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.15 เมตร/รทก. มีระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.27 เมตร/รทก. และเขื่อนเจ้าพระยา เริ่มมีการปรับลดการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 2,396 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมวานนี้มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,520 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ แม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ในระยะนี้จนถึงกลางเดือนตุลาคม 2564 บริเวณภาคกลางยังมีโอกาสเกิดฝนตกหนักได้ ทางกรมชลประทาน ขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน
ด้านความเดือดร้อนของชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านท่าทราย ม.1 ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ชาวบ้านกว่า 1,000 ครอบครัว ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ยังคงต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเดินทาง เนื่องจากระดับน้ำบางจุดยังคงมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถใช้การได้ นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนต้องมาอาศัยอยู่บริเวณริมถนนเป็นการชั่วคราว สำหรับปัญหาที่พบส่วนใหญ่ในขณะนี้ น้ำที่ท่วมเน่าเสียเริ่มส่งกลิ่นเหม็น และมีปลิง ออกมาด้วย
ทางด้าน นางปาน เอี่ยมสุภา ประธานกลุ่มแม่บ้านท่าทราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องประสบปัญหาของฝูงปลิง ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงถูกปลิงกัด และอีกสิ่งที่กำลังเดือดร้อนหนักก็ คือ เรื่องของน้ำที่ท่วมขังเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ทั้งหนี้ก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องนี้