“พระมหาไพรวัลย์” ร่วมเสวนาออนไลน์ 14 ตุลามหาวิปโยคกับเยาวชนตรัง

พระมหาไพรวัลย์ ร่วมเสวนาออนไลน์ 14 ตุลาวันมหาวิปโยคกับเยาวชน จ.ตรัง ภายใต้หัวข้อ "เยาวชนรุ่นใหม่กับบทบาททางการเมืองไทย" โดยมีวิทยากรชื่อดังร่วมให้ความรู้ เพื่อให้นักเรียนรู้เท่าทันการเมือง และรู้เท่าทันสื่อ เกี่ยวกับข่าวสารการเมือง

วันนี้ (14 ต.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนโรงเรียนพรศิริกุล ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ได้ร่วมกับ บริษัท พาราดิซัล มีเดีย จำกัด จัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “เยาวชนรุ่นใหม่กับบทบาททางการเมืองไทย” โดยมีวิทยากรชื่อดัง ประกอบด้วย นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือไอ้ก้านยาว วีรชนคนเดือนตุลา นายบัณฑิต ลุนทา ประธานบริษัท พาราดิซัล มีเดียจํากัด ผู้ผลิตรายการ กินอยู่คือ…และรายการสารคดีเชิงข่าว “ความจริงไม่ตาย” ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศชื่อดัง ร่วมเสวนาให้ความรู้กับเด็กนักเรียน

ทั้งนี้คณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนได้ให้ตัวแทนนักเรียนสอบถามวิทยากรจากคำถามของนักเรียนผ่านทาง google form พร้อมเปิดโอกาสให้กับนักเรียนส่งคำถามผ่านทางช่องแชทของแอปพลิเคชัน Zoom และFacebook Live จากเพจโรงเรียนพรศิริกุล เพื่อให้นักเรียนสามารถรู้เท่าทันการเมือง และรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถจัดวางบทบาททางการเมืองของตัวเองในฐานะเยาวชนได้อย่างเหมาะสมต่อไป

นส.เชาวภรณ์ สัมพันธรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพรศิริกุล กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เวทีนี้จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ประสบการณ์จากวิทยากรโดยตรง เพื่อให้นำไปปรับใช้ในอนาคต และเพื่อให้ได้รับรู้ขอบเขตเสรีภ่พของของเยาวชนว่ามีมากน้อยเพียงใด และควรปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะถูกต้อง

หลังเปิดการเสวนา เยาวชน จ.ตรัง ได้ตั้งคำถามกับท่านพระมหาไพรวัลย์ ว่า เพราะเหตุใดพระอาจารย์จึงกล้าออกมาพูดเรื่องการเมือง ทั้งนี้ท่านพระมหาไพรวัลย์ ได้ให้คำตอบแก่เยาวชนว่า “เราไม่ได้อยู่ด้วยก็ธรรมวินัยอย่างเดียว พระสงฆ์สัยอยู่ภายใต้กรอบหลักๆ 3 อย่าง คือ อยู่ภายใต้ระบบพระธรรมวินัย อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นพลเมืองของประเทศต้องเคารพกฎหมาย ไม่ใช่ว่าเป็นพระสงฆ์แล้วอยู่ในระบบพระธรรมวินัยแล้วไม่ต้องเคารพกฎหมายมันก็ไม่ใช่แล้วเราก็อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศภายใต้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ซึ่งตัวพระราชบัญญัติคณะสงฆ์มีความเป็นการเมืองในตัวมัน เพราะมันออกโดยการเมืองในสมัยที่ คสช.ยังอยู่ มี สนช.ประชุมกันออกพระราชบัญญัติแก้ไขให้หพระสงฆ์กัน มันก็มีความเป็นการเมืองนั้นแหละ จะบอกว่าไม่เกี่ยวกันยังไง ถ้าไม่เกี่ยวการเมืองก็ต้องไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พระสงฆ์อยู่กันเอง โดยที่รัฐไม่เข้าไปยุ่งจะใช้ศัพท์สมัยใหม่ก็ได้ว่าการปกครองแบบที่แยกเลย อาณาจักรจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับศาสนจักรไม่มีกฎหมายแบบชั้น 2 ชั้น 3 แบบที่เป็นอยู่ ฉะนั้นเรื่องที่ว่าพระสงฆ์ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองมันเป็ยมายาคติ มันไม่ใช่เรื่องจริง”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดช้ำ หลังคำพิพากษาศาลฎีกา พ่อแม่ น้องหลิว 8 ปี ที่รอคอย โอดครวญ คงตายก่อนเยียวยา ไม่เคยได้รับการเยียวยา จากจำเลย หลังศาลฎีกา ตัดสิน จำคุกจำเลย ตลอดชีวิต คดี ผอ.โรงเรียน ฆาตกรรมลูกสาว สาวโรงงาน
พ่อเลี้ยงหื่น! มอมเหล้าลูกเลี้ยง วัย 16 ปี จนขาดสติก่อน ลวนลาม ขณะแม่อยู่ด้วยก็ไม่เว้น เครียดหนักเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย สุดอึ้ง!! เอาเรื่องไปบอกแม่ กลับไม่เชื่อ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยื่นสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้อัยการด้วยตัวเอง 14 รายการ
ราชกิจจาฯเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้ชื่อใหม่ "เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี"
“แม่สามารถ” เครียดจัด ผูกคอคาห้องขังดีเอสไอ จนท.ช่วยระทึก ห่วงลูกจะอดข้าวประท้วง ขอความเป็นธรรม
เคราะห์ร้าย ! หนุ่มวัย 18 ปี ขี่จยย. ถูกกันสาดหล่นใส่หัวเจ็บสาหัส
ยูเครนลั่นไม่ทำลายทุ่นระเบิดอ้างถูกรัสเซียรุกราน
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบดำเนินคดี “กลุ่มน้ำไม่อาบ” ทุกมิติ พร้อมเอาผิดตามหลักฐานคลิปที่ปรากฏ
ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว
ทหารพรานจัดกำลังตรวจค้นเก็บกู้บ่วงดักสัตว์ป่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น