วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลา 09.30 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พ.อ.ธนาวีร์ วิชาชัย รอง ผอ.รมน.รมน.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี พร้อมคณะเดินทางไปยังแคมป์คนงาน บ.วงศ์สยามก่อสร้าง จก. ริมคลองระบายน้ำป้องกันน้ำท่วม บ.วัวข้อง ม.3 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง หลังจากออกคำสั่งด่วน ปิดแคมป์คนงาน-ไซด์งาน ก่อสร้างใน สนง.ประปาเขต 7 อุดรธานี และสถานีผลิตน้ำประปาบ้านวัวข้อง เมื่อตรวจพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก
โดยบรรยากาศบริเวณหน้าแคมป์คนงาน เจ้าหน้าที่ได้นำเทปพลาสติกมาขึงปิดกันเป็นแนวห้ามคนเข้าออกท่ามกลางละอองฝนโปรยมาตลอดเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลเมืองหนองสำโรง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองอุดรธานีที่เข้ามาสอบสวนควบคุมโรค ร่วมกับนายนิกร สุนทรพินิจ หัวหน้าคนงาน เพื่อคัดกรองแยกผู้ติดเชื้อที่เหลือ 7 ราย นำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมนำรถพยาบาลจาก รพ.ศูนย์อุดรธานีมารับผู้ติดเชื้อออกไปพร้อมกันไปส่งที่ “ศูนย์มรกต” หรือ รพ.สนาม
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พร้อมคณะรับรายงานจากทีมสาธารณสุข 2 ทีมว่า เมื่อวานรับแจ้งจากแคมป์แรงงานสุ่มตรวจคนงานด้วย ATK ที่บริษัทฯจัดหามาให้ เพราะมีคนงานจากคลัสเตอร์ บ.ดงน้อย ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ ที่มีคำสั่งปิดหมู่บ้านในขณะนี้เคยมาทำงานแบบไป-กลับ และพบมีคนงานหลายคนติดเชื้อโควิด-19 จึงนำผู้พบเชื้อกับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปตรวจหาเชื่อแบบ PCR ยืนยันการติดเชื้อ 15 ราย ส่งเข้าโรงพยาบาลชุดแรก 8 ราย วันนี้อีก 7 ราย และยังรอผลการตรวจเชื้ออีก จึงแยกกักตัวในแคมป์ฯ โดยสั่งห้ามเข้าออกตั้งแต่วานนี้
นายนิกร สุนทรพินิจ หัวหน้าคนงาน ชี้แจงว่า มีแรงงานไทยทั้งหมดราว 90 คน เป็นแรงงานอาศัยในแคมป์ติดกัน 2 แห่ง 65 คน เป็นแรงงานเดิมตั้งแต่ เม.ย.64 และเดินทางแบบไป-กลับ 35 คน มีการหมุนเวียนบ้างไม่กี่คน คนงานทั้งหมดเกี่ยวพันกัน ได้รับการตรวจเชื้อด้วย ATK ไปทุกคน คนที่พบเชื้อนำส่ง รพ.ไปหมดแล้ว ทางบริษัทฯสั่งการหาให้ปิดแคมป์ ห้ามคนงานออกไปจากแคมป์ นอกจากไปรักษาตัวที่ รพ. ส่วนอาหารการกินใช้วิธีสั่งซื้อ
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า มีคำสั่งให้นำรายชื่อแรงงานของบริษัทฯ ที่ได้จัดทำบัญชีไว้ก่อนหน้านี้ ตามแผนป้องกันเชื้อเชิงรุก มาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน จากบทเรียนระบาดไซด์งานครั้งแรก เราใช้เวลารวบรวมชื่อคนงานถึง 3 วัน เมื่อมีชื่อที่อยู่จะควบคุมได้เร็วขึ้น โดยถือว่าทั้งหมดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ และกักตัวรอดูอาการ ทั้งในแคมป์คนงานกักตัวให้ครบ ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงนอกแคมป์
“ส่วนคนงานที่มาทำงานไป-กลับ จะติดตามให้ครบทุกคน เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อ หากพบส่งเข้ารักษาตัวทันที และถ้าไม่พบจะต้องกักตัว 14 วัน เพื่อติดตามต่อเนื่อง ด้วยการส่งไปกัตัวที่ LQ ของตำบล-อำเภอ ภูมิลำเนาของแรงงาน โดยจะควบคุมโรคไปถึงครอบครัว ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกคน และเย็นวันนี้จะสุ่มตรวจหาเชื้อ 25 % ที่ตลาดสดไทยศิริ 3 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแคมป์คนงาน และเป็นที่จับจ่ายหาอาหารของคนงานที่นี่ ใครที่คิดว่าตนเองสัมผัสเสี่ยงสูง ก็มารับการตรวจหาเชื้อได้
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่อุดรธานี วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 133 ราย แยกเป็นติดเชื้อในจังหวัด 127 ราย ติดเชื้อนอกจังหวัด 6 ราย ป่วยสะสม 15,756 ราย หายป่วยกลับบ้าน 131 ราย รักษาอยู่ 2,074 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย สะสม 124 ราย ส่วนเรือนจำกลางอุดรธานี ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มแล้ว ยอดสะสม 4,991 ราย ยังเหลือรักษาใน รพ.อุดรธานี 2 ราย และได้ปิดโรงพยาบาลสนามในเรือนจำแล้ว
ในส่วนการฉีดวัคซีนอุดรฯฉีดไปแล้ว 972,000 โดส หรือ 56 % เป้าหมายแรกสิ้นเดือนนี้ฉีดรวม 1 ล้านโดส จะเป็นจังหวัดที่ 3 ของภาคอีสานรองจาก บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ยังไม่รวมวัคซีนนักเรียน ม.ปลาย 33,000 โดส สัปดาห์หน้าจะฉีด ม.ต้น 30,000 โดส ขณะเป้าหมายสองเปิดเมือง 1 ใน 15 จังหวัดที่ ศบค.ตั้งเป้า ฉีดวัคซีนพื้นที่เปิด 6 อำเภอ ตามเกณฑ์ 70 % แต่อุดรฯตั้งไว้ 80 % ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว จุดบริการท่องเที่ยว สถานประกอบการร่วมโครงการต้องฉีดวัคซีน 100 % ด้วยการสนับสนุนของภาครัฐและเอกชน จะสามารถเปิดเมืองได้ตามเป้า
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี