วานนี้(15 ตุลาคม 2564) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เปิดการท่องเที่ยวในรูปแบบ “สมุยพลัสโมเดล” (Samui Plus Model) ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 และต่อยอดภูเก็ตเอ็กซ์เทนชั่น 7+7 และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็น “สมุยพลัสแซนด์บ๊อก” รวม 90 วัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว 2,811 คน แบ่งเป็น ในพื้นที่เกาะสมุย 1,261 คน เกาะพะงัน 93 คน เกาะเต่า 42 คน ภูเก็ตเอ็กซ์เทนชั่น 7+7 อีกจำนวน 1,415 คน รวม มีการพักแรม 13,927คืน (รูมไนท์) มียอดจองจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มสมุยพลัสแซนด์บ๊อก จะเข้ามายังเกาะสมุย 979 คน จำนวนห้องพักที่ทำการจองล่วงหน้า 7,721 คืน โดยภาพรวมตั้งแต่เริมเปิดโครงการ จนถึงปัจจุบันสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ถึง 81.22 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยว เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนายศุภฤกษ์ ทองสุก ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การที่รัฐบาล ประกาศนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ มองว่าเป็นผลดีกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เปิดรับนักท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม การที่มีนโยบายประกาศเปิดประเทศโดยไม่มีการกักตัว จากประเทศที่มีความเสียงต่ำ ก็จะทำให้เพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยในช่วงแรก เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า นักท่องเที่ยวจะเยอะขึ้นแน่นอน และอาจจะมีบางส่วนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่เขื่อนเชี่ยวหลาน และอุทยานเขาสกมากขึ้น ซึ่งจะเกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว ทำให้ในส่วนของฝั่งบกได้รับผลประโยชน์ในเรื่องของการหมุนเวียนทางด้านเศรษฐกิจ เช่น การจับจ่ายซื้อของ และหมุนเวียนในระบบสถานบริการของนักท่องเที่ยว คิดว่านโยบายเหล่านี้เป็นนโยบายที่ถูกต้อง
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวอีกว่า การเปิดเกาะสมุยแซนด์บ็อก เกิดประโยชน์อย่างมาก เป็นการเปิดพื้นที่ในเชิงสัญลักษณ์ให้กับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของเรา เช่น เยอรมัน อังกฤษ ได้รับทราบว่าในพื้นที่ยังมีนโยบายที่มีความพร้อมทางด้านสาธารณสุข ในเรื่องของภาคบริการ
ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ใช้คำว่าถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เราใช้ระบบปฏิบัติการแบบเดิม ก็ถือว่า ได้ทำให้คนในพื้นที่มีความตื่นตัวค่อนข้างมาก การจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ก็มีอัตราเพิ่มมากขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาทำให้คนในพื้นที่มีความตื่นตัว ที่จะรับนักท่องเที่ยวในการที่จะกลับเข้ามาในประเทศ
และจากนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีนั้น ส่งผลดีเนื่องจากใน 3 พื้นที่มีความพร้อมอยู่แล้วทุกด้าน ซึ่งหลังจากประกาศนโยบายดังกล่าว พบว่าตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2564 มีการจองโรงแรมเข้ามามากกว่า 1,000 Booking แล้วถือว่าเป็นจำนวนที่น่าสนใจมากและค่อนข้างเร็ว
นายศุภฤกษ์ กล่าวถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย ว่า อยากเชิญชวนทุกคนที่ได้สิทธิ์ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทัวร์เที่ยวไทย ที่มีความสนใจอยากท่องเที่ยวทางทะเล หรือทางบก ให้เข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางฝั่งบกก็มีอำเภอบ้านตาขุน เขื่อนเชี่ยวหลาน และอำเภอพนม คืออุทยานแห่งชาติเขาสก รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เช่น คีรีรัฐนิคม เป็นบริเวณบ้านน้ำราด ตอนหลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก มีสะพานรถไฟ สงครามโลกครั้งที่ 2 มีพื้นที่หลากหลายที่น่าสนใจ อีกทั้งนโยบายในเรื่องของการเข้ามาในพื้นที่มีการผ่อนปรนมากขึ้น
“ขอบคุณผ่านไปยังรัฐบาล ท่านนายกรัฐมนตรีที่เด็ดเดี่ยวได้ประกาศให้มีการเปิดพื้นที่โดยไม่มีการกักตัว และเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวไว้ว่าการเอาชนะ covid-19 ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนหลักการ การใช้ชีวิตแบบปกติให้พี่น้องประชาชนชาวไทยให้เร็วที่สุด เป็นการตัดสินใจที่ที่เด็ดขาดแสดงถึงภาวะผู้นำที่ดีในเรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวในตอนท้าย