วันนี้ 16 ต.ค. 2564 หลังจากสื่อหลายสำนัก ได้นำเสนอชีวิตความเป็นอยู่ของสองยายพี่น้อง คือยาย วารินทร์ สืบสังข์ วัย 79 ปีและคุณยายเฟือง อยู่ดี วัย 77 ปีผู้เป็นน้องสาว ชาวบ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าๆทรุดโทรม มีรายได้จากเงินเบี้ยผู้สูงอายุพอประทังชีวิต ไม่มีลูกหลานดูแล ทำให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่ได้รับชมข่าวต่างเมตตาคุณยายทั้ง 2 โดยมีทั้งเดินทางมามอบสิ่งของเครื่องใช้และเงินสดด้วยตัวเอง และบางส่วนได้โอนเงินช่วยเหลือคุณยายผ่านทางบัญชี ของผู้ใหญ่บ้าน น.ส.วิมล แข็งเพ็ญแข ผู้ใหญ่บ้านไทยสันติสุข โดยนายสุทธิชัย รักเกื้อ นายอำเภอพนมดงรัก ได้มอบหมายให้ นาย วีรวัติ เสาะพบดี กำนันตำบลบักได และคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมกันดูแลเงินที่ผู้ใจบุญได้บริจาคเข้ามาทั้งหมด เนื่องยายทั้งสองไม่มีลูกหลานคอยดูแล ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการปิดบัญชีรับบริจาคแล้วตั้งแต่ 26 ก.ย.2564 โดยยอดรวมเงินทั้งหมด 131,829.33 บาท(หนึ่งแสนสามหมื่นหนึ่งพันแปดร้อยยี่สิบเก้าบาทสามสิบสามสตางค์)
หลังจากนั้นคณะกรรมการได้มีความเห็นร่วมกันว่า ควรปรับปรุงบ้านของคุณยายทั้งสองเพื่อให้สะดวกและถูกสุขลักษณะ สำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุทั้งสอง จึงได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งเพื่อซื้อวัสดุก่อสร้างและเป็นค่าแรงช่าง รวมทั้งซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกให้คุณยายทั้งสองด้วย เช่น ตู้เย็น ตู้กับข้าว มุ้ง และเตา รวมเป็นเงิน 92,340 บาท (เก้าหมื่นสองพันสามร้อยสี่สิบบาท) สำหรับแรงงานในการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านนั้นก็ได้รับความร่วมมือร่วมแรงจากเพื่อนบ้าน และกำลังทหารในพื้นที่มาช่วยกัน โดยในวันนี้ นายวีรวัติ เสาะพบดี กำนันตำบลบักไดและคณะกรรมการทั้งหมดได้นำเงินที่เหลือจำนวน 39,489 บาท (สามหมื่นเก้าพันสี่ร้อยแปดสิบเก้าบาท) มามอบให้กับคุณยายทั้งสอง พร้อมชี้แจงถึงรายละเอียดการใช้จ่ายเงินให้คุณยายทราบ ซึ่งได้มอบเป็นเงินสดให้คุณยายจำนวน 9,489 บาท (เก้าพันสี่ร้อยแปดสิบเก้าบาท) และโอนเข้าบัญชีของคุณยายวารินทร์ สืบสังข์ อีก 30,000 บาท (สามหมื่นบาท)
นาย วีรวัติ เสาะพบดี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่เมตตาคุณยายทั้งสอง ถือว่าเป็นยอดเงินที่เยอะพอสมควร ทางคณะกรรมการก็ได้ดูแลเป็นอย่างดีและในวันนี้ก็ได้นำส่งถึงมือคุณยายเป็นที่เรียบร้อย
ทางด้านยาย วารินทร์ สืบสังข์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก และขอขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยยาย ขอให้ทุกคนร่ำรวยอายุมั่นขวัญยืนอย่าเจ็บอย่าจนตลอดไป
ภาพ/ข่าว ชัยยา พาละพล ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์