พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมศบค. จะหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค. ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด – 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค. ส่วนหน้า โดยได้แต่งตั้งพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปเป็นผู้อำนวยการ เพื่อบูรณาการส่วนราชการทั้งหมด เพื่อยุติการแพร่ระบาดและสร้างมาตรการป้องกันให้แข็งแรง ไม่ให้เกิดการระบาดในครั้งต่อไป
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่ากรณีที่นายกฯ สั่งการให้กำลังพลเข้าไปช่วยสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกโดยเร่งด่วน คือการเพิ่มขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนรองรับ วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ และกำหนดประเทศที่อนุญาตให้เดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ส่วนจะมีกี่ประเทศขอให้ได้ข้อยุติ โดยทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ จะต้องมีการเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยงานเกี่ยวกับด้านสาธารณสุข การท่องเที่ยว ภาคเอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายปกครองที่ต้องเตรียมแผนรองรับกรณีเกิดปัญหา เราจะคิดให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้ ยังมีรายละเอียดเรื่องการเดินทางเข้าออก ให้เป็นไปอย่างสะดวกรัดกุม ไม่เป็นผลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยใน 1-2 วันนี้จะพยายามให้ได้ข้อยุติในรายละเอียดและจะประกาศให้ทราบต่อไป
ขณะที่ในช่วงของการเปิดประเทศ จะพิจารณาใช้กฎหมายปกติ และยกเลิกพระราชกำหนดฉุกเฉินหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าสามารถทำได้ แต่ที่จริงต้องดูรายละเอียดว่าสิ่งที่ออกมาตรการไปจะใช้กฎหมายใดมารองรับ อะไรที่ยังจำเป็นและไม่จำเป็น ต้องให้คณะทำงานพิจารณาอย่างรอบคอบ
ส่วน จะทำอย่างไรไม่ให้การทำงานของศบค. ส่วนหน้า ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่มีอยู่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ไม่ซ้ำซ้อน เนื่องจากเราลงไปดูพื้นที่เฉพาะ ที่มีความซับซ้อนหลายเรื่องในการแก้ปัญหา ที่สำคัญคือต้องแก้อย่างรวดเร็ว และทุกหน่วยงานต้องได้รับการสนับสนุนอย่างคล่องตัว จึงตั้งศบค. ส่วนหน้าขึ้นมา
เมื่อถามว่า วัคซีนที่จะเข้ามาในพื้นที่จะเป็นไปตามกำหนดหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า วัคซีนจะมาตามกำหนด