‘ธปท.-สมาคมธนาคารไทย’ชี้แจง ปมโจรไซเบอร์ดูดเงินบัตรเครดิต

ธปท.-สมาคมธนาคารไทย ชี้แจงปมโจรไซเบอร์ดูดเงินบัตรเครดิต เดบิต พบนำเอไอมาสุ่มเลขบัตรและวันหมดอายุในธุรกรรมจำนวนเงินน้อย สั่งธนาคารพาณิชย์แจ้งเตือนทุกครั้งที่เริ่มโอนตั้งแต่ 1 บาท พร้อมหารือวีซ่า มาสเตอร์การ์ด ยกระดับใช้ OTP

ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ระบุ จากการตรวจสอบของธปท.และสมาคมธนาคารไทย พบความเสียหารจากการโจรกรรมข้อมูลบัตรเดบิตและบัตรเครดิตช่วงวันที่ 1-17 ต.ค. 2564 มูลค่ารวม 130 ล้านบาท แบ่งเป็นบัตรเดบิต 30 ล้านบาท และบัตรเครดิต 100 ล้านบาท โดยพบความผิดปกติของการโอนธุรกรรมดังกล่าวมากสุดในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค. รวมความเสียหาย 10,700 บัตร สัดส่วนบัตรเดบิตและเครดิตที่พบความผิดปกติอย่างละครึ่ง

ทั้งนี้ ธปท.และสมาคมธนาคารไทย ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลข้อมูลของธนาคารพาณิชย์ และไม่ใช่แอปดูดเงินอย่างที่เข้าใจกันขณะนี้ แต่เกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาสุ่มบัตร ซึ่งเกิดจากการทำธุรกรรมกับร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ และเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยแค่ครั้งละ 1 ดอลลาร์ ทำให้ไม่มีการใช้รหัส OTP ทำให้ไม่มีการแจ้งเตือน

สำหรับมาจรการเร่งด่วน ทางธปท.ได้กำชับให้สมาคมธนาคารไทยแจ้งไปยังธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ให้ยกระดับตรวจจับความผิดปกติทั้งธุรกรรมจำนวนเงินต่ำและจำนวนสูง หรือตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ให้มีการแจ้งเตือนลูกค้าผ่านช่องทางทั้งทางโมบาย แอปพลิเคขั่น mail sms และหากพบผิดปกติให้ระงับใช้บัตรและแจ้งลูกค้าโมบาย แอปพลิเคขั่น mail และ sms รวมทั้ง ให้เฝ้าระวังรายการจากต่างประเทศเป็นพิเศษ ส่วนกรณีบัตรเดบิตที่ถูกเรียกเก็บเงินผิดปกติให้ทำการคืนเงินภายใน 5 วันนับจากวันแจ้ง และบัตรเครดิตจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินและคิดดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ธปท.ยังได้ยกระดับการตรวจสอบ ล่าสุดได้หารือกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรทั้งวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด ในการยืนยันตัวตน เช่น ออกรหัส OTP กับบัตรเดบิตร้านค้าออนไลน์ และขอให้ธนาคารพาณิชย์มีการตรวจจับและจัดทำมาตรการโมบายแบงก์กิ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้ายืนยันพิสูจน์ตัวตน และจะร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการทำงานร่วมกัน

ประธานสมาคมธนาคารไทย ผยง ศรีวณิช ระบุ ธุรกรรมที่ผิดปกติในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค. เป็นธุรกรรมที่ไม่ต้องใช้รหัส OTP ซึ่งการโจรกรรมเป็นธุรกรรมไม่ใหญ่ใช้นัมเบอร์ธนาคาร 6 หลักแรกของบัตรที่ลูกค้าให้ไว้กับร้านค้า และใช้เทคโนโลยีเอไอสุ่มเลข 6 หลักหลังบนบัตร และสุ่มวันหมดอายุของบัตร ที่ไม่ต้องใช้หลัง 3 หลักหลังบัตร ซึ่งถ้าบัตรไหนสุ่มใช้ได้ก็จะมีการทำธุรกรรมในจำนวนเงินน้อยทำให้ไม่ต้องใช้รหัส OTP ซึ่งไม่ได้เกิดการรั่วไหลข้อมูลของธนาคารพาณิชย์ เกิดจากการซื้อขายออนไลน์ ส่วนใหญ่กว่า 90% ซื้อร้านต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์เร่งดำเนินการทันที หลังรับแจ้งว่าพบความผิดปกติ โดยบัตรเครดิตจะยังไม่มีการตัดเงินหรือคิดดอกเบี้ย ส่วนเดบิตเมื่อมีการแจ้งเข้ามา ทางธนาคารจะคืนเงินให้ภายใน 5 วันทำการ โดยสามารถแจ้งไปที่คอลเซ็นเตอร์ได้กับทางผู้ออกบัตร

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น