วันที่ 20 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านหนองอ้อยช้าง ต.ดอนอะลาง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่าใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก เพราะไม่มีบัตรประชาชน ทั้งที่เป็นคนไทย มีญาติพี่น้องเป็นตัวตน และกำลังเดือดร้อนหนักเพราะไม่สามารถฉีดวัคซีนได้
โดยตรวจสอบพบว่า นางสาว นุสรา หรือตาล สิงหอำพล อายุ 31 ปี เดิมเป็นชาว จ.อำนาจเจริญ มาเป็นลูกสะใภ้ของนางจันทร์ซรี อิ่มรัมย์ อายุ 49 ปี อยู่เลขที่ 7/1 บ้านหนองอ้อยช้าง ต.ดอนอะลาง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มีบุตรกับสามี 1 คน
น.ส.สุสรา เล่าชีวิตความเป็นมาว่า ตั้งแต่เกิดมาตนไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ อาศัยอยู่กับป้าและลุงมาตั้งแต่เด็ก เรียนหนังสือที่ จ.อำนาจเจริญ จนจบ ป.6 ซึ่งในตอนนั้นตนได้ถามป้ากับลุงว่า อยากเรียนต่อ แต่ได้รับคำตอบว่าเรียนไม่ได้ เพราะไม่ได้แจ้งเกิด ไม่สามารถมีบัตรประชาชนได้ และเป็นการทราบครั้งแรกในชีวิตว่า ตนไม่มีหลักฐานการแจ้งเกิด ซึ่งยอมรับว่าน้อยใจที่ไม่มีใครพาไปทำ ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน
ต่อมาป้ากับลุงพามาทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ แต่ยิ่งคิดยิ่งน้อยใจ เพราะป้ากับลุงไม่ยอมทำบัตรประชาชนให้ ทั้งยังโดนดุด่าสารพัด ตอนอายุ 14 ปี จึงตัดสินใจหนีไปอยู่กับแฟนหนุ่ม รู้จักกันที่กรุงเทพฯ ทำงานก่อสร้างด้วยกันเช่าห้องอยู่กระทั่งมีลูกด้วยกัน 1 คน
ต่อมาแฟนทราบว่าตนไม่มีบัตรประชาชนเลยพยายามตีตัวออกห่าง แล้วไปคบกับผู้หญิงคนใหม่ ก่อนบอกเลิกพร้อมกับเอาลูกตนไปด้วย แฟนบอกว่าอยู่กับตน ไม่มีอนาคต ตอนนั้นรู้สึกเคว้งคว้าง อยู่ห้องพักคนเดียว สุดท้ายมีสองสามีภรรยาชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ข้างห้อง เห็นใจพาไปอยู่ด้วย และได้มาอยู่อาศัยต่อที่ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ กระทั่งในเวลาต่อมา มาพบแฟนใหม่เป็นชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มาถึงตอนนี้อยู่กินกันมา 7 ปี มีลูก 1 คน อายุ 6 ปี
น.ส.นุสรา เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนตั้งท้องลูกคนแรก อายุได้ 15 ปี ได้เดินทางไปหาป้ากับลุงที่ย้ายไปอยู่ จ.ขอนแก่น เพื่ออยากให้ช่วยเรื่องทำบัตรประชาชน แต่ป้ากับลุงไม่ยอมช่วย บอกว่าเก่งจริงต้องไปหาทำบัตรเอาเอง คาดว่าป้ากับลุงน่าจะโกรธไม่หายที่หนีออกจากบ้าน
มาถึงตอนนี้มีลูกคนที่สอง การใช้ชีวิตเป็นไปด้วยความลำบาก เวลาเอาลูกไปรักษาพยาบาล หมอจะถามหาบัตรประชาชนแม่ทันที โดยเฉพาะช่วงที่มีโรคโควิด-19 ระบาด ตนอยู่อย่างหวาดผวา เห็นเพื่อนบ้านไปฉีดวัคซีนกันอย่างมีความสุข แต่ตนเองไม่สามารถไปฉีดได้ เพราะไม่มีบัตรประชาชน จึงอยากจะวิงวอนให้หน่วยงานใดก็ได้ เข้ามาช่วยเหลือตนให้พ้นจากความทุกข์ ได้มีบัตรประชาชนเหมือนคนไทยทั่วไป ยืนยันว่าเป็นคนไทย เพราะเกิดที่อ่างใหญ่ หมู่ 1 ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีพยายานเป็นผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในหมู่บ้าน ส่วนเอกสารหลักฐานมีเพียงชิ้นเดียวที่ไปขอมาได้คือ หลักฐานผลการเรียนชั้น ป.6 เท่านั้น.
ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์