นายกฯ มอบนโนบายดีอีเอส-ปณท ใช้ดิจิทัลช่วยคนไทย เข้าถึงบริการสาธารณสุขทั่วถึง-เท่าเทียม

นายกฯ มอบนโนบายดีอีเอส-ปณท ใช้ดิจิทัลช่วยคนไทย เข้าถึงบริการสาธารณสุขทั่วถึง-เท่าเทียม

“พล.อ.ประยุทธ์” นายกรัฐมตรี นำคณะพร้อมด้วย รมว.ดีอีเอส และ กจญ.ไปรษณีย์ไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.สิงห์บุรี มอบนโยบายนำเทคโนโลยีดิจิทัล สนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีความทันสมัย ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

วันนี้ (20 ต.ค.64) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีร่วมกับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อติดตามและตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยในโอกาสนี้ ได้เป็นประธานเปิดโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” ณ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ต.บางพุทธา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี และตรวจเยี่ยมโครงการนำร่องการใช้โดรนนำส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังบ้านผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม มีข้อจำกัดในการขนส่งทางภาคพื้นดิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และมอบหมายนโยบายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการนําเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการบูรณาการและสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีความทันสมัย ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม แม้ในสถานการณ์ที่มีขีดจำกัดด้านการขนส่ง อย่างเช่น กรณีภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือการแพร่ระบาดของโรค

ทั้งนี้ ความพร้อมของเครือข่ายให้บริการของไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพร้อมด้านระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ขณะที่ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่รัฐบาลลงทุนไว้ให้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ทั้งเชิงกายภาพและดิจิทัล รองรับการเดินหน้าด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัลของประเทศไทย

“เรายังมีการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G มาผนวกเข้ากับความพร้อมของโครงข่ายโลจิสติกส์ มาสนับสนุนระบบสาธารณสุข มาสู่การควบคุมแจกจ่ายยาผ่านโดรน ซึ่งจาก

วันนี้ทางไปรษณีย์ไทย ก็น่าจะขยายการจัดส่งไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่มีข้อจำกัดต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้ง 5G ต่อไป โดยให้ภาคส่วนต่างๆ บูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งแผนเงิน แผนงาน แผนคน เพื่อนำศักยภาพของเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนการเดินหน้าประเทศไทยในด้านต่างๆ ตลอดจนเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน จากสถานการณ์ต่างๆ ให้มากที่สุด

“ขอชื่นชมกระทรวงดิจิทัลฯ และไปรษณีย์ไทย ที่มีการลงพื้นที่จริงและทดลองนำร่องในครั้งนี้ เปิดมิติใหม่ของการสื่อสารและการขนส่งของไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ลดภาระ ลดระยะเวลา และการส่งสิ่งของมีความปลอดภัยได้เร็วขึ้น และทำให้การสื่อสารและขนส่งของประเทศก้าวหน้าเข้าสู่สังคมดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลมาหลายปีต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง 5G และการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รัฐบาลยืนยันว่าจะสานต่อสิ่งเหล่านี้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด และรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในยุคโลกหลังโควิด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงฯ ตอบรับนโยบาย โดยการใช้ศักยภาพในการขนส่งและเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกครัวเรือนในประเทศของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในสังกัดดีอีเอส ซึ่งเป็นผู้ให้ยริการโลจิสติกส์ครบวงจรและมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยดำเนินการมาตั้งแต่มีสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด และปัจจุบันขยายผลมาให้บริการไปยังพื้นที่ซึ่งประสบอุทกภัยน้ำท่วม

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา “โดรน” ซึ่งเป็นอุปกรณ๋เทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความแม่นยำระยะไกล สนับสนุนภารกิจในการเป็นยานพาหนะจัดส่งยา รวมถึงอุปกรณ์ที่จําเป็นให้ถึงบ้านผู้ป่วย

ทั้งนี้ สถิติการให้บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 63 -64 มีปริมาณงานเฉลี่ย 48,178 ชิ้น/เดือน (ข้อมูล ก.ย. 64 ปริมาณรวม 1,011,746 ชิ้น)

สำหรับการให้บริการในพื้นที่สิงห์บุรี ซึ่งประสบอุทกภัย มีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้แก่ผู้ป่วย รพ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และจัดส่งน้ำยาล้างไตถึงที่อยู่ผู้ป่วยของ รพ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย พร้อมดำเนินการสอดรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงฯ จากการริเริ่มเป็นผู้ขนส่งยาจากโรงพยาบาลถึงบ้านผู้ป่วย เป็นรายแรกของไทย ให้บริการขนส่งไปยังโรงพยาบาลกว่า 400 แห่ง เพื่อให้ผู้ป่วยในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น