วันที่ 28 ตุลาคม 2564 สถานการณ์โรคโควิด-19 จ.น่านกลับมาระบาดอีกครั้ง หลังพบผู้ป่วย จำนวน 8 ราย มีอาชีพขายไก่ทอด อยู่ที่ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ แต่ตลาดปิดเนื่องจากมีการระบาดของโควิด-19 จึงพากันเดินทางกลับบ้าน ที่บ้านใหม่เจริญสุข หมู่ 14 ต.สะเนียน อ.เมือง จ.น่าน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
จากนั้นเริ่มมีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ เมื่อวานวันที่ 27 ตุลาคม จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อ ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทั้งครอบครัว ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน ได้เร่งเข้าตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงมีการแพร่กระจายสู่ผู้สัมผัสในครอบครัวและเครือญาติ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 17 ราย รวมขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 25 ราย และคาดการณ์จะพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มอีกจำนวนมาก เนื่องจากสอบสวนโรคพบมีผู้กลุ่มเสี่ยงจากการสัมผัสจากผู้ติดเชื้อเชื่อมโยง ซึ่งได้เดินทางไปร่วมงานทำบุญข้าวใหม่ และไปประกอบศาสนกิจที่โบสถ์ ในอีก 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านใหม่เจริญสุข, บ้านสองแคว และบ้านกลางพัฒนา และหมู่บ้านใกล้เคียงมากกว่า 500 ราย
นายจงจิต ปินศิริ สาธารณสุขอำเภอเมืองน่าน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดทั้ง 25 ราย ส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลน่าน ซึ่งในนี้มีเด็กเล็กอายุเพียง 5 เดือน ที่ต้องเฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษ โดยขณะนี้ได้ระดมทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ตั้งจุดตรวจ ที่โรงเรียนบ้านสองแคว ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน เพื่อค้นหาเชิงรุกด้วยชุดตรวจหาเชื้อแบบ Antigen Test Kit (ATK) ให้กับชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน 500 กว่าราย ที่มีการสัมผัสจากผู้ติดเชื้อเชื่อมโยง ในจำนวนนี้มีทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุ โดยผู้นำชุมชนต้องใช้ภาษาชนเผ่าเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่มีความเสี่ยงให้มาทำการตรวจหา
ด้าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการลงพื้นที่ตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่จากกรณีที่มีผู้เดินทางกลับมาจากจังหวัดเชียงใหม่ มีอาชีพ ขายไก่ทอด ที่ตลาดวโรรส ที่ถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และเข้ามาในจังหวัดน่าน ผ่านอำเภอบ้านหลวง และเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านที่อยู่รวมกันถึง 8 คน เข้ามาในพื้นที่ในช่วงวันที่ 21 ซึ่งเป็นวันหยุดยาว พอเข้ามาก็มีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน อาทิ กิจกรรมทางศาสนาคริสต์ กิจกรรมการสู่ขวัญข้าวใหม่ ทำให้พบผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นจำนวนมาก ส่วนการดำเนินคดีนั้น ต้องรอให้รักษาตัวจนหายก่อนแต่ยืนยันว่ามี ความผิดชัดเจน ทั้งไม่ลงทะเบียนเข้าออกจังหวัดตามคำสั่งจังหวัดน่าน และฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดน่าน