นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธรณสุข ลงพื้นที่เชียงใหม่เพื่อติดตามสถานการณ์โควิด-19 พร้อม นายเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงฯ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะ เดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ควบคุมป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 2 เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ในเขตชุมชนเมืองของเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งมีทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สสจ.เชียงใหม่ ผอ.โรงพยาบาลนครพิงค์ และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดตลาดเมืองใหม่ ที่ตั้งอยู่ด้านข้างสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ภายใต้มาตรการควบคุม ป้องกันโรค ของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ หลังมีการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของจังหวัดและมีผู้ติดเชื้อนับ 1,000 กว่าคน โยมีการปิดตลาดก่อนหน้านี้ 14 วัน และเพิ่งกลับมาเปิดเป็นทางการเมื่อ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยนายอนุทิน พร้อมคณะได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดเมืองใหม่ด้วยรอยยิ้ม พร้อมถามแต่ละคนในเรื่องของการรับวัคซีนครบหรือยัง รวมทั้งให้กำลังใจกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดด้วย
นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตัวเลขล่าสุดจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่มีการระบาดในชุมชน อยู่ในการดูแลกว่า 4,000 คน เป็นคนพื้นที่ 50% เป็น กลุ่มแรงงานต่างด้าว 50% ซึ่งผู้ป่วยจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ใน CI ที่จัดตั้งขึ้นในทุกอำเภอ นอกนั้นอยู่ที่ รพ.สนามและ รพ.ต่างๆ มีผู้ป่วยสีแดง 88 ราย สีเหลือง 571 รายส่วนที่เหลือเป็นสีเขียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกระดับทำงานอย่างเต็มที่ และมีการปรับรูปแบบการดำเนินการตามความเหมาะสมของพื้นที่ ส่วนการฉีดวัคซีนของประชานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ดำเนินการฉีดไปแล้วกว่า 1,079,204 คน จากประชากร 1.7 ล้านคน หรือประมาณ 62.41 %
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธรณสุข กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ทำงานบูรณาการร่วมกัน คาดว่าจะสามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ และกระทรวงสาธารณสุขเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ จึงได้มีการจัดสรรวัคซีนเพิ่มให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะอีก 7 แสนโดส และคาดว่าจะสามารถฉีดให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่ ได้ครบ 100 % จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 70% ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะรวมถึงประชาชนชาวเชียงใหม่ และแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้ สถานประกอบการต่างๆ จะต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานตามเกณฑ์ Covid Free Setting ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับทุกคน ทั้งนี้เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพยายามควบคุมโรคให้มีการแพร่ระบาดลดลงได้ในระยสั้น และมีมาตรการและความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พฤศจิกายนนี้ แน่นอน
ส่วนการดูแล การรักษาพยาบาลผู้ป่วยของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้ โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้นำเครือข่ายของเขตสุขภาพที่ 1 เข้ามาช่วยเหลือรองรับผู้ป่วย หากเตียงในจังหวัดเชียงใหม่ไม่เพียงพอ ก็จะสามารถส่งต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียง เพื่อทำการรักษาได้ ทั้งนี้ให้คำแนะนำในการนำระบบ Community Isolation, Home Isolation และ Hospitel มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาล ซึ่งหากสามารถวางมาตรการได้ดีแนวโน้มสถานการณ์เตียงผู้ป่วยของจังหวัดเชียงใหม่ก็จะดีขึ้นตามลำดับ
ล่าสุด ( 30 ตุลาคม ) สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงาน พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 394 ราย สะสมแล้ว 16,373 ราย และวันนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต เพิ่มอีก 2 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 57 ราย