เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ตนยังไม่ได้รับการประสานจากพรรคเพื่อไทย ที่จะขอนัดหารือแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่วนประเด็นที่พรรคต้องการอภิปรายรัฐบาลนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนได้ เพราะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง
นพ.เรวัต กล่าวถึงมาตรการกำกับประชาชนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในพื้นที่กทม. ต้องไม่เกินเวลา 21.00 น. ตามที่พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ระบุว่าหากเกินเวลาดังกล่าวให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์เทใส่ถุงกลับบ้าน และจะส่งเจ้าหน้าที่รวมถึงทีมงานตรวจสอบอย่างเข้มข้นว่า มาตรการดังกล่าวสะท้อนความโง่เขลาและการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เพราะหากต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งสำคัญคือการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ครบโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน รวมถึงจัดบูสเตอร์โดสให้ประชาชนมากกว่ากำหนดเงื่อนไขเวลาที่ไม่มีหลักวิชาการอ้างอิงได้ว่า หากให้เลิกดื่มเวลา 21.00 น. หรือเลิกดื่ม 23.00 น. นั้นอัตราการระบาดของโควิด-19 แตกต่างกันอย่างไร ไม่ใช่ยกเมฆหรือนั่งเขียนกำหนดเวลาเอาเอง
“ผมขอเรียกร้องให้กทม. คลายล็อกด้วยการเปิดให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้จนถึงเวลาปิดร้านตามกฎหมาย เช่น ปิดเที่ยงคืน เป็นต้น ทั้งนี้ผมกังวลว่ามาตรการที่ผู้ว่าฯกทม.กำหนดนั้น เอาเข้าจริงไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะเมื่อครบเวลา 21.00 น. แก้วที่ใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจเปลี่ยนเป็นแก้วกาแฟ หรือแก้วชนิดอื่นที่อำพรางเครื่องดื่ม เพื่อให้สามารถนั่งดื่มในร้านได้ต่อจนถึงเวลาร้านปิดได้ ดังนั้นสิ่งที่จะควบคุมการแพร่ระบาดได้คือการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจะดีกว่า ” นพ.เรวัต กล่าว