นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้กฎหมายลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีบางกลุ่มเสนอให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยว่า ที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรม หรือแม้แต่ตัวกฎหมายต่างๆ ไม่ได้จำกัดการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เพียงแต่การแสดงความคิดเห็นใดๆ นั้น ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย จะอ้างแต่ว่าควรมีเสรีภาพทางความคิดอย่างเดียวนั้นคงไม่ได้ ส่วนที่ระบุว่าทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคมที่รุนแรงมากขึ้นนั้นก็คงไม่ใช่ แต่เป็นเพราะที่ผ่านมามีนักการเมืองบางกลุ่ม ซึ่งแทนที่จะห้ามปรามการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ และจาบจ้วงสถาบันฯ แต่กลับออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะคล้ายๆ ว่าเห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ หรือแม้แต่การใช้เอกสิทธิ ส.ส.ช่วยประกันตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่จาบจ้วงสถาบันฯ เป็นการกระทำที่สร้างความแตกแยกมาตลอด อย่าพยายามแบ่งแยกประชาชนเลย ทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ควรจะมีความสามัคคีเพื่อประเทศชาติและประชาชน
นายธนกร กล่าวอีกว่า หากพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะแก้กฎหมายบางเรื่อง ก็สามารถดำเนินการได้โดยการนำข้อเสนอแนะต่างๆ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาฯ แต่ไม่ใช่การออกไปผสมโรงด้วยกับผู้ชุมนุมเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน หากจะมีการแก้ไขมาตรา 112 ด้วย เพราะที่ผ่านมาขนาดว่ามีมาตรา 112 ยังมีการชุมนุมที่แกนนำจาบจ้วงสถาบันขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับการที่ไม่มีมาตรา 112 ดังนั้น ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการอะไรโดยหวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าคนไทยที่รักสถาบันหลายคนคงรับไม่ได้ ที่สำคัญ คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดนั้นก็ย่อมจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว มาตรา112มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่มีกฏหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง ทางที่ดีพรรคเพื่อไทยควรเสนอแนะเรื่องการบริหารบ้านเมืองน่าจะดีกว่าการมาเสนอแก้ไขกฎหมายที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งที่คนไทยรัก เคารพ และศรัทธา