วันนี้ (3 พ.ย. 64) ผู้สื่อข่าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านนับสิบหลังคาเรือน ที่มาซื้อที่ดินปลูกบ้านอยู่ภายในซอยด้านข้างร้านอาหารครัวภักดี พื้นที่หมู่ 1 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับความเดือดร้อน จากกรณีเจ้าของที่ดินข้างเคียง ซึ่งมีที่ดินติดกับด้านหลังบ้านของผู้ได้รับความเดือดร้อนนับสิบหลัง ได้ดำเนินการนำดินเข้ามาถมที่จนสูงกว่า 3 เมตร แถมยังก่อกำแพงสูงบนที่ดินที่ทำการถมใหม่ จนมิดหลังคาบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน
นายธัชชัย กรกุม อายุ 37 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้มาซื้อบ้านอยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งที่ดินด้านหลังบ้าน เป็นที่ดินรกร้าง ซึ่งเจ้าของไม่ได้ทำประโยชน์ใดๆ กระทั่ง เจ้าของที่ดินดังกล่าว ได้ขายที่ดินให้กับเจ้าของรายใหม่ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า เจ้าของรายใหม่ได้เริ่มเข้ามาปรับปรุงพื้นที่รกร้างดังกล่าว โดยทำการตัดต้นไม้ ไถปรับพื้นที่และมีการนำรถขนดินเข้ามาถมที่ดินจนสูงกว่าสามเมตรเทียบเท่ากับระดับหลังคาบ้านของชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งหลังจากเจ้าของที่ดินได้ทำการถมดินจนสูง ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จึงได้เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อขอให้เจ้าของที่ดินยุติการถมที่ดินที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยได้ยื่นร้องเรียนครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563
แต่หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว แทนที่เจ้าของที่ดินจะหยุดการถมที่ กลับกลายเป็นว่าเจ้าของที่ดินได้สร้างกำแพงสูงขึ้นมาบนที่ดินที่ถูกถมใหม่ ซึ่งกำแพงดังกล่าวก็สูงจนมิดหลังคาบ้านของชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนนับสิบหลัง อีกทั้ง ในช่วงที่มีฝนตก ปรากฏว่า น้ำจากที่ดินที่มีการถมใหม่ได้ไหลทะลุกำแพงปูนที่เจ้าของที่ดินสร้างขึ้น ไหลเข้ามาท่วมในบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน และน้ำที่ไหลทะลุกำแพงปูนมายังบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน ยังทำให้ที่ดินในบ้านของกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนยุบตัว จนเกิดความเสียหายกับตัวบ้านหลายจุด
กลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจึงเดินหน้ายื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสภาทนายความจังหวัดกาญจนบุรี ทำหนังสือทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทำเรื่องร้องเรียนยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย รวมถึงยื่นเรื่องถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาธิการ รวมแล้วกว่า 6 ครั้ง แต่ปัญหาดังกล่าวก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข ทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็ทำได้เพียงเรียกเจ้าของที่ดินมาเจรจาไกล่เกลี่ยกับชาวบ้าน ซึ่งเจ้าของที่ดินก็เพียงรับปากว่าทำการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำที่รั่วทะลุกำแพงให้กับชาวบ้าน แต่ก็ไม่เคยทำการแก้ไขใดๆ ตามที่รับปาก
ขณะที่ทางเทศบาลก็ได้มีคำสั่งให้เจ้าของที่ดิน ระงับการถมที่ดิน แต่ทางเจ้าของที่ก็นิ่งเฉยและไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขใดๆ ทุกวันนี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่างต้องอาศัยอยู่กันอย่างหวาดระแวง เนื่องจากกลัวว่า ดินที่ถมจนสูงและกำแพงที่ก่อจนมิดหลังคาบ้านนี้ จะเกิดพังถล่มลงมาทับบ้านของชาวบ้านไม่วันใดก็วันหนึ่ง อีกทั้ง บ้านที่เคยซื้อในราคาหลักล้านที่เคยมีทัศนียภาพสวยงาม ปัจจุบันก็ถูกปกคลุมด้วยกำแพงปูนจนมองไม่เห็นอะไร แสงแดดส่องไม่ถึง ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนบางรายถึงกับตัดใจ ประกาศขายบ้านทิ้ง เพราะปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขมานานนับปีเช่นนี้