นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับผลสำรวจสำนักวิจัยซูเปอร์โพลเรื่อง มาตรา 112 ที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 98.5 การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์เชิงลึกของคนในชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเชิงประวัติศาสตร์ นอกจากนี้เกือบร้อยละ 99.1 ไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และการแก้มาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง หาคะแนนเสียงและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะจะทำให้สร้างความแตกแยกขัดแย้งในชาติ
จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศรักและศรัทธา และมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และจะไม่ยอมให้ใครนำเรื่องสถาบันไปแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองหรือทางการเมืองของพรรคการเมือง
นายเสกสกล ยังอยากให้ฝ่ายค้านได้รู้จักคิดและฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบ้าง ว่าประชาชนมีความต้องการอะไร และการที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นตนเองมั่นใจว่าคนไทยทั้งประเทศไม่ยอมอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันการที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะชูเรื่อง 112 ในการหาคะแนนนิยมของพรรคนั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้ามั่นใจว่าคงไม่ชนะแบบถล่มทลายอย่างที่คุยไว้แน่นอน
“ขอให้พวกนักวิชาการบางคน นักการเมือง พรรคการเมือง สามนิ้วสามกีบทั้งหลายที่คิดร้ายทำลายต่อสถาบัน หันมาฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ดูบ้าง หยุดพฤติกรรมที่คิดแก้ไข ม.112 เสียตั้งแต่บัดนี้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่มีความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบัน จะไม่ยอมให้พวกหนักแผ่นดินวางแผนคิดล้มล้างสถาบันอย่างเด็ดขาด แม้จะแลกด้วยชีวิตก็ตามจะขอปกป้องจนถึงที่สุด”