วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจำปา โม้ภักดี อายุ 56 ปี หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน จากบ้าน 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านปางแต้ บ้านเบญจมิตรเหนือ บ้านเบญจมิตรใต้ ตำบลสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา รวมกว่า 200 หลังคาเรือน ได้รับความเดือนร้อน จากศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจรเทศบาลตำบลสูงเนิน ส่งกลิ่นเหม็น รบกวนทั้งกลางวัน กลางคืน อีกทั้งชาวบ้านเกิดปัญหาสุขภาพในระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนชรา หรือแม้แต่วัยหนุ่มสาว ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากภาคเอกชนที่รับเหมาในการกำจัดขยะ ได้ครบกำหนดตามสัญญาว่าจ้างและไม่มีการต่อสัญญา จึงได้ยกเครื่องจักรกลับเหลือไว้แต่ในส่วนของเทศบาลฯจึงทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังให้บริการกำจัดขยะมูลฝอย แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อื่น นำขยะเข้ามาทิ้ง จำนวน 13 แห่งและภาคเอกชน 10 แห่ง จึงทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยเข้าภายในศูนย์กำจัดขยะฯมีจำนวนมากถึง 50 ตันต่อวัน ส่งผลทำให้ขยะล้นและเน่าเสีย เกิดกลิ่นเหม็น จึงอยากให้ทางเทศบาลตำบลสูงเนิน เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจรเทศบาลตำบลสูงเนิน สร้างมาได้ 8 ปีแล้ว ซึ่งได้ว่าจ้างภาคเอกชนเข้ามาดูแลทั้งระบบเดือนละ 1 แสนบาท และสามารถเก็บค่ากำจัดขยะมูลฝอยจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อื่นจำนวน 18 แห่งและภาคเอกชน 10 แห่ง ได้เงินเข้าเทศบาลฯเดือนละ 7 แสนบาทต่อเดือน โดยในแต่ละวันจะมีปริมาณขยะเข้าวันละ 50-70 ตันต่อวัน แต่เครื่องของภาคเอกชนสามารถช่วยกำจัดขยะมูลฝอยได้วันละไม่เกิน 35 ตันต่อวัน หลังจากมีการเลือกตั้งและมีนายกคนใหม่ ทำให้ไม่มีการสานต่อและภาคเอกชนก็หมดสัญญา จึงทำให้การบริการจัดการขยะไม่มีประสิทธิ์ภาพ เกิดปัญหาขยะล้นเมือง ซึ่งทางเทศบาลเลือกที่จะแก้ปัญหาโดยการ นำขยะทิ้งลงบ่อและฝั่งกลบ ซึ่งปัจจุบันเกินเนื้อที่ไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าไม่เกิน 2 เดือนจะเต็ม จึงทำให้ขยะที่อยู่ใต้ดิน โดนทั้ง ลม ฝนและแดด ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบและร้องเรียนถึงความเดือนร้อน
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา