วันนี้ ( 7 พ.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก ก่อนไหลเข้าท่วมพื้นที่ลานจอดรถโรงพยาบาลปลายพระยา และบ้านพักของบุคลากรทางการแพทย์ ส่งผลให้ให้เกิดความโกลาหลเพราะเจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลื่อนย้ายยานพาหนะรถฉุกเฉินทางการแพทย์ออกจากลานจอดรถของโรงพยาบาล แล้วนำไปจอดไว้บนถนนเพื่อป้องกันความเสียหาย จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. ปริมาณจึงน้ำเริ่มลดระดับลง ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปลายพระยา พร้อมเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลปลายพระยา ได้เข้าล้างดินโคลนภายในโรงพยาบาลปลายพระยา เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการกับประชาชนได้ตามปกติ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา กว่า 20 หลังคาเรือน จนผู้นำชุมชนต้องเข้าอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่ในช่วงกลางดึกเมื่อวานนี้ ล่าสุดเช้านี้ชาวบ้านหมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 4 ต.เขาเขน ต่างเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนหลังถูกน้ำป่าหลากเข้าท่วม ขณะที่ผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ต่อไป
นอกจากนี้หลายพื้นที่ใน อ.เขาพนม ยังถูกน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.พรุเตียว และ ต.เขาดิน กว่า 10 หลังคาเรือน ก่อนเอ่อล้นเข้าท่วมถนนสายควนไม้แดง และถนนสายทุ่งขอบนาง โดยมีระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. ส่งผลให้ยานพาหนะไม่สามารถสัญจรผ่านไม-มาได้ และจากการสำรวจล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่าระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วันที่ จ.นครศรีธรรมราช มีรายงานว่า ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักครอบคลุมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.บางขัน ส่งให้ระดับน้ำในคลองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นแต่ยังไม่ล้นตลิ่ง ส่วนบนถนนสายบางขัน-ลำทับ ช่วงหน้าตลาดบางขัน ต.บางขัน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมผิวการจราจรรวมระยะทางกว่า 100 เมตร โดยระดับน้ำสูง 30-50 เซนติเมตร ทำให้รถจักรยานยนต์ และรถยนต์เล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไป-มาได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางขัน จึงต้องเข้าอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ขับรถผ่านถนนเส้นดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย โดยหลังฝนหยุดตก น้ำที่ท่วมขังบนผิวจราจรได้ลดระดับลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
นอกจากนี้ น้ำในคลองพานแพ ซึ่งเป็นคลองที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่ 7 บ้านพานแพ และหมู่ 14 บ้านลำเนา ต.บ้านลำนาว ได้เอ่อล้นเข้าท่วมถนน รวมระยะทางกว่า 200 เมตร ระหว่างนั้น นายชาติชาย ชดช้อย อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่10/1 หมู่ 15 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 6753 นครศรีธรรมราช มาตามถนนริมคลองโดยขับฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทันใดนั้นรถกระบะเกิดเสียการทรงตัวถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปในคลอง โชคดีที่ นายชาติชาย สามารถหนีออกจากรถได้ หลังเกิดเหตุชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำตัวนายชาติชาย ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนประสานรถยกเข้าทำการกู้รถกระบะขึ้นมาได้สำเร็จ สอบถามนายชาติชาย เล่าว่า หลังจากทำสวนได้ขับรถกระบะมาตามถนนริมคลองเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านโดยไม่รู้ว่าน้ำจากคอลงเอ่อล้นเข้าท่วมถนน เพราะเป็นช่วงค่ำไม่มีแสงสว่าง สุดท้ายถูกกระแสน้ำพัดจนรถกระบะตกคลอง โชคดีที่หนีออกมาทัน และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น
อินเสิร์ทข่าวอ่าน
นครศรีธรรมราช…….
ส่วนฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี ประชาชนได้รับผลกระทบ 35 ครัวเรือน นอกจากนี้น้ำยังไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 7 บ้านควนพรุน ต.ชัยบุรี อ.ชัยบุรี ประชาชนได้รับผลกระทบ 15 ครัวเรือน และยังไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านสระแก้ว ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สุราษฎร์ธานี จึงประสานไปยังหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ ให้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
อินเสิร์ทข่าวอ่าน
สุราษฎร์ธานี…..
ขณะที่ สมาคมประมงสงขลา ได้แจ้งเตือนทางวิทยุ โดยขอให้เรือประมงที่ทำประมงบริเวณอ่าวไทย นำเรือประมงกลับเข้าฝั่งเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรง และมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ย.นี้
ล่าสุดวันนี้ ( 7 พ.ย.64 ) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากใน 13 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ หนองบัวลำภู มหาสารคาม อุบลราชธานี นครราชสีมา ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม ว่า ขณะนี้หลายพื้นที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงประสานไปยังจังหวัดที่มีน้ำท่วมขัง ให้ระดมสรรพกำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ทั้งนี้ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือผ่านไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง