ก.แรงงาน เร่งแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวทะลัก

รมว.แรงงาน เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวทะลัก ขออย่าเพิ่งเดินทางเข้าไทย หวั่นเสียเงินฟรี ล่าสุด เตรียมหารือแนวทางนำเข้าแรงงานถูกกฏหมายตาม MOU วันที่ 11 พ.ย.นี้

วันนี้ (8 พ.ย.64) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยจากกรณีที่มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมากในขณะนี้ว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการทะลักของแรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ จากตัวแทนผู้ประกอบการภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) มูลนิธิ รวมทั้งชมรมผู้ประกอบการที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว

 

 

ทั้งนี้ รัฐบาล ได้ให้ความสำคัญกรณีแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน เนื่องจากการฟื้นฟูเศรษฐกิจรองรับการเปิดประเทศ โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้ง ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง สกัดกั้นขบวนการขนย้าย ค้าแรงงานต่างด้าวที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการเร่งหารือแนวทางแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการนำเข้าแรงงานอย่างถูกกฎหมาย รองรับความต้องการของภาคการผลิตและบริการไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง จากความสำเร็จในการเดินหน้าการเปิดประเทศเพิ่มมากขึ้นของรัฐบาล

 

นายสุชาติ  กล่าวว่า จากแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ทำให้แรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยแบบผิดกฎหมายได้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน

 

ส่วนการนำแรงงานเข้ามาเพิ่มเติมตาม MOU นั้น กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน จะมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หารือถึงแนวทางการนำเข้าแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นจะเสนอ ศบค. ชุดใหญ่ และ ครม. ให้ความเห็นชอบเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานตามความต้องการของผู้ประกอบการ

 

นายสุชาติ ที่ผ่านมาได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สถานประกอบการ เพื่อสำรวจแรงงานต่างด้าวที่อยู่นอกระบบ พบว่า มีอยู่ประมาณกว่า 1 แสนราย โดยให้ผู้ประกอบการได้นำเเรงงานเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ขณะเดียวกัน จากการสำรวจความต้องการแรงงานของไทย พบว่า ปัจจุบันมีความต้องการแรงงานทั้งไทยและต่างด้าวอยู่ที่ ประมาณ 4 แสนคน  และจากการสำรวจความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการจากการ MOU คาดว่าจะมีถึง 2 แสนคน ในธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจอาหารแช่แข็ง

 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงาน ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และได้ทำงานเชิงรุกมาโดยตลอด โดยเฉพาะการให้สิทธิคนไทยได้ทำงานก่อน หากแรงงานไม่เพียงพอก็จะนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา ตามขั้นตอนของมติ ครม. และเป็นไปตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามที่ ศบค. กำหนด ในส่วนการทะลักเข้ามาของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายตามแนวชายแดนนั้น กระทรวงแรงงานได้บูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและฝ่ายความมั่นคง เพื่อเข้มงวดกวดขันในการขยายผลจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองต่อไป

“อยากสื่อประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ประกอบการ แล้วก็พี่น้องแรงงานต่างด้าว อย่าเพิ่งมา เพราะช่วงนี้เราขึ้นทะเบียนเฉพาะคนที่อยู่ในสถานประกอบการเหลือเวลาแค่ 20 วัน แต่หลังจากนั้น เข้ามาก็ผิดกฎหมาย เสียเงินค่าหัวมาเป็นหมื่น สองหมื่น อยากให้สื่อไปถึงพี่น้องผู้ใช้แรงงานชายแดนว่า อย่าไปเสียเงิน เพราะหลังจากนั้นจะมีการอนุญาตนำเข้า MOU อย่างถูกต้อง แต่การ MOU ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะต้องหารือศบค.ซึ่งเป็นผู้ควบคุมโควิด เมื่อก่อนเราจัดการในกระทรวงแรงงาน แต่วันนี้การที่จะนำแรงงานต่างด้าวเข้ามา ต้องกักตัว 14 วัน  การได้รับวัคซีน  เราก็ต้องดูแลเค้าเหมือนกับพี่น้องผู้ใช้แรงงานทั่วไป”  รมว.แรงงาน กล่าว

ด้านนายสมพงค์ สระแก้ว ประธานมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)  กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงการใช้แรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะการที่แรงงานข้ามชาติ เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะทำให้เข้าถึงการคุ้มครองจากรัฐบาล ทั้งด้านสิทธิประโยชน์ การประกันสังคมและสวัสดิการต่าง ๆ ตามหลักสิทธิมนุษยชน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เกิดอะไรขึ้น? ปลาลอยเต็มคลอง “คนบางปู” ใจเสีย-หวั่นเกิดภัยธรรมชาติ
"สส.กล้าธรรม" เตือนรัฐบาล อย่าเปิดช่องนำเข้าเนื้อ - เครื่องในสุกร ใช้เจรจาสหรัฐลดภาษี ห่วงกระทบหนักอุตฯหมู ห่วงโซ่เกษตรกรรม
จีนสั่งเก็บภาษีสหรัฐเพิ่มเป็น 84% เอาคืนทรัมป์
"ทรัมป์" มั่นใจ Apple สามารถผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ได้ "นักวิเคราะห์" ชี้ ราคาอาจสูงถึง 3,500 ดอลลาร์
"วราวุธ" นำทีมผู้บริหาร พม.แถลงผลงาน 6 เดือน สร้างมั่นคงชีวิตคนไทย สานโครงการพระราชดำริ พร้อมเดินหน้าพันธกิจเรือธง 9 ด้าน
"ผู้ว่าฯสงขลา" พร้อมปธ.แม่บ้านมหาดไทย นำส่วนราชการ-พี่น้องปชช. ร่วมสวมผ้าไทยใส่บาตร ปูสาดริมเล สืบสานวัฒนธรรม เสริมสิริมงคล
"สก.นภาพล" ชงสภากทม. ชี้จำเป็นลดภาระดอกเบี้ยวันละ 5 ล้าน ควรยึดคำพิพากษา "ศาลปกครองสูงสุด" เร่งชำระหนี้ BTS งวด 2 กว่า 2 หมื่นล้าน
ผู้นำจีนลั่นจะยกระดับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเอเชีย
“พิพัฒน์” ย้ำดูแลผู้ประสบภัยเหตุตึกสตง.ถล่ม พร้อมรับข้อเสนอ ส.ส.ผลักดันมาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
กลุ่ม ปตท. จับมือกับโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จุดประกายอนาคตนักวิทย์ไทย ผ่านโครงการส่งเสริมสะเต็มศึกษา 2568

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น