พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ครั้งแรกที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า เป็นกลไกของสภาผู้แทนราษฎร สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้สภาฯ ทำหน้าที่ได้ ไม่ใช่การขับเคลื่อนงานโดยประธานวิปรัฐบาลเพียงคนเดียว ซึ่งทุกพรรคการเมืองจะต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเรื่องกฎหมายที่จำเป็นและเรื่องที่ต้องมีการปฏิรูป มากกว่าจะมองเพียงเรื่องของความขัดแย้งกัน ซึ่งสภาฯ ควรจะมีบรรยากาศในการร่วมมือกัน ถ้าทุกคนหันหน้ามาพูดคุยในสิ่งที่เป็นประโยชน์ จะทำให้ประเทศไทยนั้นเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ หลังจากได้ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ นายกรัฐมนตรีรู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเองไม่สามารถควบคุมงานสภาฯ ได้ และเป็นเรื่องของวิปรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่อง เรื่องไหนที่เป็นกฎหมายสำคัญ ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษาและปฏิรูป ต้องช่วยกันผักดันให้ออกเป็นกฎหมาย ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ผ่าน เพื่อล้มรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ใจร้ายกับประเทศเกินไป
ส่วน นายกรัฐมนตรีได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลว่าไม่มีการดำเนินการดังกล่าวใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผมไม่ทราบ และเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคไปว่ากันมา ผมอะไรก็ได้ เพราะทำงานเพื่อประชาชน
ขณะที่ นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ได้โพสเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีการเปลี่ยนแปลงประธานวิปรัฐบาลแล้ว
ส่วนกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐโดยตรง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร้อยเอกธรรมนัสได้เคยมาพูดคุยกันไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็ถือว่าดี ส่วนพรรครัฐบาลจะเป็นปึกแผ่นหรือไม่นั้น พลเอกประยุทธ์ มองว่า ถ้าไม่มีใครยุแยงตะแคงรั่ว ก็ดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการรับฟังการแถลงผลงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) และโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในปี 2565 ว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ทุกกระทรวงมีส่วนร่วม และมีการจัดสรรงบประมาณให้ แต่ผู้ดำเนินการคือ ศอ.บต. ที่จะมีแผนงานและโครงการต่างๆ ซึ่งการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ก็ดีขึ้น ความเชื่อมันก็ดีขึ้น สถิติความรุนแรงลดลง ซึ่งมาจากการเอาใจใส่ในการทำงานของคนในพื้นที่ จึงอยากให้เห็นใจ เจ้าหน้าที่เพราะอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงสูง จึงอยากให้กำลังใจทุกคน