นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความอ้างอิงปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมแนะนำให้รัฐบาลวางมือหรือยุบสภา เพื่อให้ประชาชนเลือกคนดีและคนเก่งที่มีความสามารถมาทำงานแทนว่า ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่า นายทักษิณและบริวาร ออกอาการดิ้นรนและทุรนทุรายเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำการทุจริตและบิดเบือนหลักการประชาธิปไตย
นายชัยชนะกล่าวว่า การที่นายพานทองแท้ และนายทักษิณ ได้เผยความในใจออกมาชนิดที่เรียกได้ว่า ‘อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่’ เพราะการที่บอกให้คนอื่นปล่อยวางจากอำนาจ แต่ตัวเองกลับทำสถิติวางมือไม่รู้กี่สิบครั้ง และยังเดินหน้า ‘สืบทอดอำนาจ’ โดยผลักดัน น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาวเข้ามาควบคุมดูแลภายในพรรค และยังพยายามปล่อยชื่อเครือญาติ คนใกล้ชิดเพื่อหยั่งกระแสสาวก ว่าใครควรที่จะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่ให้ความสำคัญหรือผลักดันให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงคือ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ได้แสดงวิสัยทัศน์และศักยภาพถึงการเป็นผู้นำพรรคที่จะไปเป็นผู้นำประเทศอย่างแท้จริง
นายชัยชนะกล่าวอีก ตนเห็นว่าก่อนจะแนะนำคนอื่น นายพานทองแท้ ควรจะแนะนำให้นายทักษิณ และบรรดาเครือข่ายที่หลบหนีได้ปล่อยวางและวางมือเสียก่อน โดยกลับมายอมรับโทษตามกฎหมาย เพราะจะได้เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า นายทักษิณและเครือข่าย เป็นผู้รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่หมกหมุ่นเล่นละครหรือหาวิธีที่จะหาทางได้อำนาจรัฐ เพื่อสนองความต้องการของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองของนายทักษิณ และบริวาร ต่างจากเมื่อก่อนราวฟ้ากับเหว เพราะแต่ก่อนนายทักษิณเป็นผู้นำกระแสเพื่อสร้างความฮือฮาให้กับประชาชนและสังคมได้เป็นอย่างมาก ใครๆ ต่างก็พูดถึง แต่ระยะหลังไม่ว่าจะเป็นการแสดงละครยกมือไหว้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การตีสองหน้าเกี่ยวกับกฎหมายที่คุ้มครองสถาบันของประเทศเพียงแค่ต้องการเสียงของคนเพียงหยิบมือ หรือการเอาเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจดีว่า เป็นตราบาปให้กับชาวนาทั้งประเทศอย่าง โครงการรับจำนำข้าว มาโจมตีการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างหน้าไม่อาย
นายชัยชนะกล่าวต่อว่า การที่นายพานทองแท้ โหนปัญหาน้ำทะเลที่หนุน จนทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมเข้ามา แล้วบอกว่าให้รัฐบาลลาออกหรือยุบคืนอำนาจให้ประชาชนนั้น สะท้อนว่า นายทักษิณและเครือข่าย น่าจะหมดแรงจูงใจและไม่สามารถสร้างกระแสให้ประชาชนคล้อยตามได้ จึงต้องหากระแสเพื่อโหนไม่ให้คนลืม โดยมีเป้าหมายเดียวที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับได้นั่นคือ การให้คนๆหนึ่งกลับบ้านเพื่อแลกกับกระบวนการยุติธรรมและหลักนิติรัฐที่จะไม่สามารถบังคับได้อีกต่อไป