ทีมข่าว “ท็อปนิวส์” เกาะติดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. – ยังไม่แน่ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จะเริ่มได้เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.จะครบวาระการทำหน้าที่ 4 ปี ในวันที่ 18 ต.ค. 2564 นี้ ซึ่งหากเป็นการมาตามปกติก็จะครบวาระการทำหน้าที่พอดี แต่ด้วยเหตุการมาเพราะ ม.44 ด้วยอำนาจพิเศษ งานนี้จึงไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดลงจากตำแหน่งของพล.ต.อ.อัศวินทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะขีดไว้ตรงไหน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดดูเหมือนสัญญาณการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.น่าจะอีกไม่นาน เพราะเริ่มมีการโหมโรงความเคลื่อนไหวจากบรรดาแคนดิเดตที่ประกาศเตรียมพร้อมลงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ออกมากันแล้ว ที่เปิดตัวโดดเด่นและดูจะเคลื่อนไหวออกตัวมากกว่าใครเพื่อนคือ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. อายุ 61 ปี ที่ล่าสุดประกาศตัวก่อนใครเพื่อนว่าจะขออาสาตัวทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ
โดยเริ่มเดินสายพบปะประชาชนชาวกรุงเทพฯทุกเขตทุกพื้นที่ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา มีการเปิดเพจเฟซบุ้คใหม่ 2 เพจคือ “จักรทิพย์ ชัยจินดา” และ “จักรทิพย์คนทำงาน” เป็นกระบอกเสียงคอยประชาสัมพันธ์ภาพและข่าวการลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อซื้อใจคนกรุงเทพฯ
งานนี้”บิ๊กแป๊ะ”ทุ่มสุดตัวเพราะไปหมดทุกงานรับปากทุกเรื่อง ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง ขุดลอกคูคลอง เก็บขยะ เข้าวัด แจกของช่วยชาวบ้าน ฯลฯ ลงพื้นที่แต่ละทีก็มีอดีตรุ้นน้องตำรวจที่เกษียณคอยติดตาม ก่อนหน้านี้ช่วงแรกก็มีนายถาวร เสนเนียม อดีตรมช.มหาดไทย นายสากล ม่วสงศิริ ส.ส.ประชาธิปัตย์ พ.อ.หิมาลัย ผิวพรรณ ร่วมขบวนในการลงพื้นที่
เดิมทีพล.ต.อ.จักรทิพย์ถูก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วางตัวให้เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว มีการแขวนป้ายรูปพล.ต.อ.จักรทิพย์ด้านหน้า อาคารปานศรี เคยเป็นอดีตที่ทำการหลังเก่าของพรรคพลังประชารัฐก่อนย้ายไปอาคารรัชดา วัน พร้อมข้อความว่า “ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมสร้าง สะอาด ปลอดภัย แก้ปัญหาฉับไว” ข่าวว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์เตรียมใช้อาคารหลังนี้เป็นศูนย์ประสานงานเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดกระแสคนรุ่นใหม่บางกลุ่ม เกิดกระแสกลุ่มสามกีบ ไม่เอารัฐบาล ไม่ชอบพรรคพลังประชารัฐ กระแสพรรคในกรุงเทพฯตกลงไปอย่างน่าใจหาย ทำให้พล.ต.อ.จักรทิพย์เกิดการลังเลและอยากเปลี่ยนใจไปลงสมัครในนามอิสระ ทำให้พล.อ.ประวิตรต้องหาทางออกด้วยการสั่งการให้น้องรักอย่างร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เรียกส.ก.และ ส.ข.ของพรรคทั้ง 36 เขตในกรุงเทพฯ มาพูดคุยระดมกำลังช่วยเหลือพล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่เจ้าตัวก็ยังลังเลแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะลงในนามพรรคพลังประชารัฐอยู่ดีและได้ขออนุญาตพล.อ.ประวิตรขอลงสมัครในนามอิสระ แต่ก็ยังขอให้พรรคพลังประชารัฐและรัฐบาลให้การสนับสนุนต่อไป
ด้าน “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ผู้ว่าฯกทม.คนล่าสุด ปัจจุบันอายุ 70 ปี นั่งในตำแหน่งพ่อเมืองกรุงเทพฯมาตั้งแต่ 18 ต.ค.2559 หลังพล.อ.ประยุทธ์ออกคำสั่้งคสช.ใช้ม.44 เชือดม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และให้พล.ต.อ.อัศวินที่นั่งเป็นรองผู้ว่าฯอยู่แล้วขยับขึ้นมาเป็นผู้ว่าฯแทน
จากวันนั้นจนถึงตอนนี้เหลืออีก 5 เดือนเศษจะครบวาระปกติ 4 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯตามปกติ แรกเริ่มเดิมทีพล.ต.อ.อัศวินก็ยังไม่คิดเลือกการลงสมัครผู้ว่าฯแต่อย่างใด แต่หลังเกิดวิกฤติโควิด-19 ระบาดหนักๆในกรุงเทพฯและปริมณฑล ดูเหมือนพล.ต.อ.อัศวินเกิดเปลี่ยนใจ ที่ทำท่าว่าจะไม่เอาไม่ลงสมัครต่อพอแล้ว ไม่รู้ไปกินดีหมีใจเสือมาจากไหนอีก เพราะจู่ๆก็กลับมามีแรงฮึดมีแรงสู้ขึ้นมาอีก ที่สุดก็นำไปสู่การขึ้นป้ายขุดผลงานที่ทำในอดีตติดโชว์หราทั่วกรุง
อาทิ เร่งระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง,นักเรียนปลอดภัยใช้ชีวิตวิถีใหม่, เดินทางไร้รอยต่อด้วย บีเอ็มเอ ฟีดเดอร์,คืนสายน้ำให้คนเมือง,ทางเท้าสะอาดบ้านเมืองเป็นระเบียบ เป็นต้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีข่าวมาตลอดว่าพล.ต.อ.อัศวินรุ่นพี่นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 30 (นรต.30) เคยมีสัญญาใจกับรุ่นน้องสามพรานอย่างพล.ต.อ.จักรทิพย์ (นรต.36) ว่าจะไม่ลงว่าจะเปิดทางให้ วลีที่ว่า “พี่วิน ผมขอนะพี่” คือสัญญาระหว่างกัน
แต่สุดท้ายพล.ต.อ.อัศวินก็เกิดเปลี่ยนใจก่อนระดมติดป้ายโชว์ผลงานทั่วเมืองกรุง จนเป็นที่มาให้เพจักรทิพย์คนทำงาน ต้องขึ้นสเตตัส “เป็นผม ผมไม่ทำ” เปิดเกมแซะรุ่นพี่กลางโลกออนไลน์ประกาศสงครามกันเป็นทางการ อย่างไรก็ตามยังไม่แน่ว่าพล.ต.อ.อัศวินจะลงในนามพรรคใดแม้จะสนิทกับทางพรรคประชาธิปัตย์ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวอยากลงสมัครในนามอิสระมากกว่าหลังประเมินว่ากระแสพรรคสีฟ้าตกลงไปมากในสนามเลือกตั้งเมืองหลวง
ขณะที่ “เสี่ยทริป” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ยุคน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ปัจจุบันอายุ 54 ปี อดีตเคยเป็นไอดอลเด็กยุคใหม่ในโลกออนไลน์ ได้รับการยกย่องว่าเป็น “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี” ขายความติดดิน เข้าถึงจับต้องง่าย โดดเด่นเรื่องคมนาคม การแก้ไขปัญหาจราจร แม้จะเปิดตัวก่อนใครเพื่อนว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.และโหมโชว์ผลงานมาตลอดเป็นระยะเวลานาน แต่กระแสก็ยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร เพราะเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องที่ยังกั๊กๆยังไม่ชัดว่าจะไปทางไหนดี ระหว่างจะลงสมัครในนามส่วนตัวลงอิสระหรือลงในนามพรรคเพื่อไทยที่เป็นบ้านเก่า ด้วยเหตุนี้จึงยังทำให้คะแนนนิยมไม่พุ่งไม่แรงเท่าที่ควร
ในส่วนของม้ามืดที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เที่ยวนี้ มีชื่อของ “ดร.เอ้” หรือ “พี่เอ้” ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นอธิการบดีที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การศึกษาของไทยว่าอายุน้อยที่สุด เพราะขึ้นเป็นอธิการบดีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบังตอนอายุ 43 ปี พอ 45 ปีก็ก้าวขึ้นเป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) อายุ 47 ปี เป็น 1 ในผู้ออกแบบสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน (ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา) และเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่สร้างรถไฟฟ้าใต้ดินเส้นแรกของเมืองไทย
สมัยเรียนมหาวิทยาลัยตอนอายุ 20 ปี ทำโปรเจค เรื่อง วิจัยออกแบบรถไฟฟ้าใต้ดินเส้นแรกในไทย ตั้งแต่ยังไม่มีบีทีเอส ขายไอเดียเสนอต่อ ร.อ.กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา ผู้ว่าฯกทม.สมัยนั้่น ล่าสุดแม้เจ้าตัวจะยังไม่ประกาศตัวลงสมัครผู้ว่าฯอย่างเป็นทางการ แต่ในเพจเฟซบุ้คส่วนตัวก็ขายไอเดียผุดโปรเจคต์บรรเจิดเพียบ ตั้งแต่เรื่องแก้ปัญหาจราจร แก้ปัญหาทางเท้า การสร้างอนาคตเด็ก นวัตกรรม โอกาสทางการศึกษา ปัญหาเรื่องการนำเข้าวัคซีน การแก้ปัญหาโควิด ฯลฯ เรียกว่าสารพัดโชว์วิสัยทัศน์ผ่านโลกออนไลน์ขายมุมมองความคิดให้คนกทม.ที่อยากลองของใหม่ได้ฮือฮากัน เพระความเป็นคนเก่งชนิดหาตัวจับยาก เป็นคนไทยระดับมันสมองชาติเป็นนักวิชาการเป็นวิศวะกรระดับหัวกะทิของประเทศ
ชื่อของดร.สุชัชวีร์ จึงเนื้อหอมสุดๆชั่วโมงนี้ ทุกพรรคอยากทาบไปลงไปใส่เสื้อตัวเองทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ใกล้ชิดดร.สุชัชวีร์เป็นพิเศษ เพราะปัจจุบันเจ้าตัวนั่งเป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ช่วยงานดร.กัลยา โสภณพานิช รมช.ศึกษาธิการอยู่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็อยากได้ตัวไปเป็นแม่เหล็กดึงความนิยมจากคนกรุงเทพฯให้กลับมา แต่ที่อยากได้ดร.สุชัชวีร์สุดๆ เห็นจะได้แก่พรรคเหล้าเก่าในขวดใหม่อย่างพรรคไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มีข่าวอยากได้ตัวดร.สุชัชวีร์เป็นอย่างมากถึงมากที่สุด เพราะต้องการดึงกระแสคนรุ่นใหม่และอยากได้ตัวดร.สุชัชวีร์มาเป็น “หัวหอก” โปรโมตพรรคน้อยพรรษาที่ตั้งขึ้นใหม่ยังไม่มีคนรู้จัก แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รับปากพรรคการเมืองใดๆ เพราะไม่อยากให้ถูกมองว่าอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมืองไม่ว่าพรรคไหน จึงอยากลงสมัครในนามอิสระมากกว่า
ทั้งหลายทั้งมวลนี้เป็นชื่อที่ถูกเปิดเผยและถูกพูดถึงในแวดวงการเมือง ว่าจะเป็นอนาคตแคนดิเดตลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ สุดท้ายใครจะลงสมัครในนามอิสระใครจะถูกดึงไปสังกัดพรรคการเมืองใด นับถอยหลังเปิดตัวเป็นทางการอีกไม่นานคงได้รู้กัน
///////////////////