นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน กับบัตรเลือกตั้งใบเดียว เพราะบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคการเมืองแต่ละพรรคไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัครให้ครบ 400 เขต แต่ถ้าเป็นบัตรใบเดียวก็ต้องส่งให้ครบทุกเขต เพราะจะส่งผลถึงคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งทำให้แต่ละพรรคมีค่าใช้จ่าย และไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ดก็จะมีความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ก็ไม่ว่าจะวิธีใดก็เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ของตัวเองอย่างเต็มที่
ส่วนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะส่งผลเสียต่อพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่ นั่น นายวราวุธ ย้ำว่า มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน แต่เมื่อแต่ละพรรคการเทือง ได้รับฟังเสียงมาแล้ว ก็ต้องทำงานตามกรอบกติกา
นายวราวุธ ยังมั่นใจว่าจำนวน ส.ส. ของพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ลดลง และกลับกันจะเพิ่มขึ้น พร้อมเห็นว่า การใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เบอร์เดียว จะเอื้อให้ประชาชนไม่เกินความสับสน และพรรคการเมืองก็จะไม่สับสนเช่น เวลาหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง และในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ละเขตผู้สมัครมีเบอร์ไม่ซ้ำกัน ก็สร้างความสับสนให้กับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อเขต
ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. ออกมาระบุว่า บัตรเลือกตั้ง 2 ใบจะทำให้พรรคขนาดเล็กสูญพันธุ์นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า การเลือกตั้งแต่ละครั้ง จะมีปัจจัยที่กระทบต่อผลการเลือกตั้งแตกต่างกันไป และขนาดนี้ยังมีเวลาอีกพอสมควร ซึ่งยังเร็วไปที่จะระบุว่าพรรคเล็กจะสูญพันธุ์ พรรคใหญ่จะได้มาก เพราะทุกครั่งทึ่เกิดการเลือกตั้งก็เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
หลังการเลือกตั้ง หวั่นใจหรือไม่ ที่จะเกิดการเปลี่ยนขั้ว นายวราวุธ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งเปรียบเสมือนการล้างไพ่ เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วต้องมาดูว่ามีการฟอร์มรัฐบาล และแนวทางการทำงานไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ผลักดันเรื่องใด จะร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างไร ยืนยันพรรคชาติไทยพัฒนามีความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พรรคพร้อมเผชิญหน้า
ส่วนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก้าวไกล เตรียมปักธง จังหวัดสุพรรณบุรีนั้น นายวราวุธระบุว่า เป็นสิ่งที่คิดได้ทำได้ แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรก็ขอให้ว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไรเนื่องจากตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็จริงอย่างที่นายพิธาพูดว่าจังหวัดสุพรรณบุรีไม่ได้เป็นของใคร แต่ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ได้ทำงานได้อย่างดีที่สุดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ก็เป็นสิทธิ์แต่ละพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครมา ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของส.ส.ในพื้นที่ที่จะปกป้องพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามครรลองการเมือง