เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นพ.นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มอบประกาศเกียรติคุณ และหรีดเคารพศพ จากศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ให้แก่พระอาวุธ หารสุรินทร์ อายุ 38 ปี พรรษา 3 วัดซับสมอทอด ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ที่มรณภาพด้วยโรคประจำตัว ญาติได้บริจาคดวงตาให้แก่ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่มองไม่เห็นอีก 2 คน โดยมีโยมแม่ของพระเป็นตัวแทนรับมอบ
น.ส.พรรณี ประพฤตินอก อายุ 59 ปี ชาว ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โยมแม่ของพระอาวุธ เปิดเผยว่า พระลูกชายบวชมาแล้ว 3 พรรษา และจำพรรษาอยู่ที่วัดซับสมอทอด อ.บึงสามพัน พระลูกชายมีโรคประจำตัวหลายโรค และเมื่อวันที่ 20 พ.ย. พระลูกชายมีอาการเท้าบวมเป็นแผลและปวดบริเวณฝ่าเท้า ญาติโยมจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลบึงสามพัน และส่งมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
น.ส.พรรณี กล่าวอีกว่า ต่อมาพบว่ามีเลือดออกในช่องท้อง แพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่ แต่พระลูกชายไม่ตอบสนองการรักษา และเสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันนี้ (23 พ.ย.) ระหว่างนั้นพยาบาลได้มาแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น จึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะของพระลูกชายทันที โดยไม่ลังเลใจ เพราะร่างกายคนเราหากตายไปก็เผาทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าอวัยวะของพระลูกชายจะสามารถช่วยชีวิตบุคคลอื่นได้ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง อยากฝากบอกไปถึงผู้ที่ได้รับบริจาคดวงตาจากพระลูกชาย ขอให้ทำความดี ปฏิบัติดี และขอให้ดวงตาเห็นธรรม
ด้าน นพ.นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า คนไข้เข้ามารับการรักษาด้วยอาการเท้าบวมและเป็นแผล ต่อมาตรวจพบว่ามีเลือดออกในช่องท้อง ประกอบกับคนไข้มีโรคประจำตัวหลายโรค แพทย์ให้การรักษาจนสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ พยาบาลที่ดูแลจึงพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิตถึงโครงการรับบริจาคอวัยวะ เพื่อช่วยเหลือชีวิตบุคคลอื่น ซึ่งโยมแม่ของผู้เสียชีวิตก็ยินดีที่จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่จะสามารถนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ แต่เนื่องจากผู้ป่วยเสียชีวิตก่อนแล้ว จึงสามารถบริจาคได้เพียงดวงตา 2 ข้าง ซึ่งสามารถนำไปช่วยเหลือให้ผู้อื่นได้มองเห็นถึง 2 คน จึงถือว่าเป็นกุศลอันใหญ่หลวงแก่ผู้เสียชีวิต