เป็นอีกหนึ่งคลิปที่เรียกเสียงฮือฮา พร้อมแชร์ต่อไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว หลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก @อรรถชัย เมฆสวรรค์ ได้ระบุว่า “เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นซอยประชาอุทิศ ชายเเท้ vs สาวสอง งานนี้มีเเตก กำ” พร้อมเผยคลิปเหตุการณ์ การดวลมวยปะทะเดือด ระหว่างสาวสองรายหนึ่ง กับชายหนึ่ง ที่มากันแบบตัวต่อตัว โดยสาวสองมาเต็มทั้งหมัด เข่า ศอก จนชายคู่กรณีเลือดอาบ ซึ่งภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ในโลกออนไลน์ต่างพูดถึงความกล้า หมัดดุดันของสาวสองคนดังกล่าว รวมไปถึง “น้องตุ้ม-ปริญญา” อดีตนักมวยสาวประเภทสองที่กลายเป็นที่โด่งดังเมื่อปี 2541 ที่ได้แชร์คลิปดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “ประกาศ! ลูกสาว เข้าค่ายด่วนๆ 55555 ถูกใจอีแม่ เริ่ดๆๆๆ เจ้าคือทายาทคนต่อไป มารับมอบตะขาบด่วนๆ”
ทีมข่าว Top News จึงได้ลงพื้นที่ไปสืบหาต้นตอที่ซอยประชาอุทิศ 79 แยก 15 เขตทุ่งครุ พูดคุยกับน้องปิ๊ง นายปากรณ์ ศิริเนศ อายุ20 ปี สาวประเภทสองที่อยู่ในคลิป น้องได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่าเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเกิดจากเพื่อนของตนเองไปคบหากับนายเทส (นามสมมติ) คู่กรณีในคลิปและมีปัญหากันบ่อยจนฝ่ายหญิงต้องหนีมาอยู่กับตนเอง ซึ่งวันดังกล่าวตนเองได้ออกตามหาเพื่อนที่บ้านฝ่ายชาย เนื่องจากติดต่อไม่ได้พร้อมแม่และป้าของเพื่อนที่คบอยู่กับนายเทส แต่กลับถูกเอาปืนเอามีดไล่ขู่ จากนั้นก็ถูกทักเฟซบุ๊กคุกคามและบูลลี่เหยียดหยามและเหยียดเพศตนเอง ต่อมานายเทสพร้อมพวกก็ตามมายังหน้าบ้านของตนเองจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนเองก็สู้เท่าที่สู้ได้และยืนยันว่าตนเองมีสิทธิ์และมีจิตใจเป็นผู้หญิงไม่สมควรโดนแบบนี้
ทีมข่าวได้สอบถามน้องปิ๊งประเด็นที่น้องตุ้ม นักมวยสาวประกาศตามหาว่า ตนเองรู้สึกดีใจและพูดได้เต็มปากว่าสนใจและส่วนตนชอบในเรื่องของการฝึกวิชามวยไทยอยู่แล้ว ก่อนยกมือไหว้ใส่กล้องและชี้บาดแผลรอยข่วนตามตัวที่มีอยู่ 3 จุดให้ดู ทั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามได้มีการกล่าวอาฆาตทิ้งท้ายด้วยว่าเจอที่ไหนจะแก้แค้นที่นั่น ตนเองจึงได้ลงบันทึกประจำวันแล้ว
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เข้าไปพูดคุยกับคุณแม่น้องปิ๊งที่เป็นผู้ถ่ายคลิปดังกล่าว คุณแม่ยอมรับว่ารู้สึกกลัวเนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพลในย่านนี้ และตนเองไม่ได้อยากให้มีเรื่อง แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้และในบ้านมีแต่ผู้หญิงและเด็ก ไม่สู้ก็ต้องสู้ แต่เมื่อรู้แพ้รู้ชนะแล้วก็ให้แยกกัน และยืนยันว่าแม้น้องปิ๊งจะเป็นสาวประเภทสองแต่ก็เป็นผู้หญิงที่ช่วยทำงานบ้านและทำงานทุกอย่าง ส่วนที่น้องตุ้มได้ชักชวนไปนั้นตนเองก็ยินดี หากใจเขารักก็ปล่อยให้เขาไปเข้าค่ายมวย
ทีมข่าวท็อปนิวส์ โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์สอบถามเรื่องดังกล่าวกับน้องตุ้ม-ปริญญา โดยน้องตุ้มได้เล่าว่า หลังเห็นคลิปนี้แล้วรู้สึกเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตนเองสมัยวัยเด็ก ก่อนที่จะมามีชื่อเสียงด้านการต่อยมวย และเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวประเภทสองคนในคลิปเป็นอย่างดี ยืนยันว่าไม่ได้ชอบการชกต่อยและไม่ได้เห็นเป็นเรื่องสนุก แต่หากถูกบูลลี่ หรือถูกรังแก ก็จำเป็นต้องสู้ ส่วนที่ประกาศตามหา เพราะอยากให้ความช่วยเหลือน้องเค้า ยินดีมอบความรู้วิชาป้องกันตัวให้ และหากน้องพร้อมก็ยินดีรับเข้าค่ายมวย น้องตุ้ม ยังบอกด้วยว่า โลกเราไปไกลมากแล้ว ไม่ควรที่จะมาด้อยค่าคนอื่น ไม่ควรตัดสินคนว่าใครเป็นเพศอะไร แต่ควรดูที่คุณค่าความเป็นคนมากกว่า
ทั้งนี้ ทีมข่าวยังให้น้องปิ๊งต่อสายตรงถึงน้องตุ้ม และทั้งคู่ได้มีการพูดคุยให้กำลังใจกัน โดยน้องตุ้มเองยืนยันว่าพร้อมที่จะซัพพอร์ตในทุกกรณีโดยไม่บังคับ และหากฝ่ายตรงข้ามไม่จบ ก็พร้อมยื่นมือช่วยเช่นกัน