อย่าเชื่อเฟคนิวส์อ้าง ‘ยูเอ็น’ บีบไทยแก้ ‘ม.112’

กต.เตือนอย่าเชื่อ-อย่าแชร์คลิปวิดีโอปล่อยเฟคนิวส์อ้าง 'ยูเอ็น' ขีดเส้นตายไทยเร่งแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยันยูเอ็นไม่ใช่องค์กรบีบชาติสมาชิกแก้ไขกฎหมาย

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในหัวข้อ “ยุ่งแล้ว สหประชาชาติขีดเส้น 2 เดือน แก้ไข ม.112” ผ่านช่องยูทูบช่องหนึ่ง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2564 นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว และชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 หน่วยราชการไทยที่ประกอบด้วยผู้แทนจากคณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และหน่วยราชการ 13 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเสนอรายงานสิทธิมนุษยชนของไทยต่อสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ภายใต้กระบวนการทบทวนรายงานสิทธิมนุษยชนตามกลไก Universal Periodic Review (UPR) รอบที่ 3 ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในการรับฟังข้อคิดเห็นจากประเทศต่างๆ ซึ่งกลไกนี้ไม่มีการบังคับ และยูเอ็นไม่ได้เป็นองค์การที่บังคับหรือขีดเส้นตายกำหนดเวลาให้ประเทศสมาชิกต้องตอบรับข้อเสนอแนะหรือต้องไปแก้ไขกฎหมาย

นายธานี กล่าวอีกว่า ในการรายงานสิทธิมนุษยชนของไทยครั้งนี้ ไทยได้รับคำชมในพัฒนาการหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม นโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า การลดความเหลื่อมล้ำ และการดูแลกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งการส่งเสริมเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกัน ไทยได้รับข้อเสนอแนะกว่า 270 ข้อ จาก 106 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มี 11 ประเทศที่เสนอแนะให้ไทยทบทวนการบังคับใช้ หรือพิจารณาปรับแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทั้งนี้ ตามแนวปฏิบัติของกระบวนการ ทุกประเทศสามารถนำข้อเสนอแนะไปหารือกับหน่วยงานผู้ปฏิบัติ และแจ้งยูเอ็นภายใน 90 วัน หลังการเสนอรายงานว่าจะตอบรับข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปฏิบัติ หรือจะรับทราบ

นายธานี กล่าวว่า คณะผู้แทนไทยได้แจ้งตอบรับข้อเสนอแนะกว่าครึ่งที่ได้รับ ซึ่งรวมถึงข้อเสนอแนะในด้านต่างๆ อาทิ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ การปราบปรามการค้ามนุษย์ การแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ส่วนข้อเสนอแนะบางเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน หรือจำเป็นต้องพิจารณาและหารือเพิ่มเติมอย่างรอบคอบ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะนำมาพิจารณาต่อไป ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลในคลิปวิดีโอดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่งหรือแชร์คลิปวิดีโอนี้ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กระทรวงฯ www.mfa.go.th หรือหมายเลขโทรศัพท์ 0-2203-5000

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น