เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่รัฐสภา เกียกกาย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ตอบกระทู้ถามสดของนายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ถึงการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องขอให้หน่วยงานท้องถิ่นที่กระทรวงมหาดไทยดูแลช่วยดำเนินการ ทั้งนี้ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และสมาชิกอบต. เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เชื่อว่ามีการทุจริต ซื้อสิทธิ์ขายเสียงแน่นอน แม้ไม่มีหลักฐานนำเสนอต่อที่ประชุม พร้อมตั้งคำถามต่อการกำกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อไม่ให้มีการทุจริตงบประมาณในหน่วยงาน
นายนิพนธ์ ชี้แจง ว่ากระทรวงมหาดไทยประสานกับกกต. อย่างใกล้ชิดในการเลือกตั้ง อบต. 5,300 แห่ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน รวมถึงประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบไปยังประชาชนเพื่อให้เห็นความสำคัญของการปกครองท้องถิ่นในประเทศไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อการใช้สิทธิ ใช้เสียงเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างไร สำหรับการทุจริตก่อนการเลือกตั้ง เบื้องต้นพบว่า มีการร้องเรียนที่จะให้ทรัพย์สิน 89 เรื่อง จะให้องค์กรต่างๆ 55 เรื่อง และเรื่องอื่นๆ ร้องเรียน รวม 268 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสัญญาว่าจะให้ ขณะที่หลังการเลือกตั้งหากมีข้อมูลทุจริต กกต. ต้องสอบสวนให้ได้ข้อยุติก่อนประกาศรับรองการเลือกตั้งกระทรวงมหาดไทยให้ความร่วมมือเต็มที่ และบุคลากรของหน่วยงาน ทั้ง กรมปกครอง, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นดูแลใกล้ชิด โดยผู้บริหารท้องถิ่นที่ได้รับเลือกตั้งก่อนปฏิบัติหน้าที่ต้องเข้ารับการอบรมในหลักการบริหารที่ดี
นายนิพนธ์ ชี้แจงว่า จากข้อมูล ระหว่างปี 50 – 58 พบว่ามีการชี้มูลความเสียหายจากความผิดร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 5.2 แสนล้านบาท แต่ในส่วนของท้องถิ่น ที่มี 7,800 แห่ง พบว่ามีมูลค่าความเสียหา 158 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.04% ดังนั้นไม่ต้องการให้เกิดขึ้น จึงมีมาตรการปรามและกำกับท้องถิ่น เช่น การทำกฎหมายเข้าชื่อเพื่อถอดถอนองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) โดยตนคาดว่าเร็วๆ นี้จะเสนอให้วุฒิสภาพิจารณา
ทั้งนี้นายวันชัย กล่าวว่า จากการชี้แจง ทำให้ความหวังต่อการไม่มีทุจริตเลือกตั้งเลือนลาง โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอบคุณในความห่วงใย ส่วนที่ยังเป็นกังวล ตนจะรับไปดำเนินการในส่วนที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งการประชาสัมพันธ์ และเรื่องบุคลากรที่ไปดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด สำหรับข้อห่วงใยของท่าน กระทรวงมหาดไทยจะรับไปดูแล และนำไปดำเนินการต่อไป