เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนัจมุดดีน อูมา อดีตส.ส.นราธิวาสหลายสมัย และอดีตโฆษกพรรคประชาชาติ ได้เขียนจดหมายแสดงความจำนงขอลาออกจากพรรคประชาชาติ โดยจดหมายเขียนด้วยลายมือและมีการถ่ายภาพส่งต่อไปในกรุ๊ปไลน์ต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้เนื้อหาในจดหมายระบุว่า “สลาม เพื่อนๆ สมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคประชาชาติที่รักและเคารพทุกท่าน ผมเป็นนักการเมืองในฐานะ ส.ส.จังหวัดนราธิวาส มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 สอบได้ สอบตก มีการปฏิวัติยึดอำนาจ เป็นเวลากว่า 20 ปี การเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2562 ผมได้เสียสละไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.แต่อย่างใด แต่ได้สนับสนุนให้พรรคประชาชาติประสบชัยชนะการเลือกตั้ง ส.ส.จนถึงปัจจุบัน”
“ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่อาจจะมีขึ้นในปี พ.ศ.2565 หรือ พ.ศ.2566 ผมขอโอกาสจากพี่น้องอีกครั้ง เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.เป็นตัวแทนของท่าน เสมือนที่เคยปฏิบัติมาตลอดเวลาในเส้นทางการเมือง แต่ด้วยข้อจำกัดทางการเมือง ผมต้องขอลาออกจากพรรคประชาชาติ ผมรักพรรคประชาชาติ เคารพผู้บริหารพรรค และผมได้ไปลาท่านหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และผู้บริหารท่านอื่นๆ พร้อมได้ชี้แจงเหตุผลถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ อนึ่งหากการตัดสินใจครั้งนี้ อาจจะไปกระทบความรู้สึกของท่าน ต้องขออภัย (มาฮัฟ) มา ณ โอกาสนี้ด้วย ผมและท่านคงได้มีโอกาสร่วมงานกันอีก”
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากผู้ใหญ่ในพรรคประชาชาติ ระบุว่า ข้อจำกัดทางการเมืองที่นายนัจมุดดีนพูดถึงในจดหมายนั้น คือการมีพื้นที่ทับซ้อนกับนายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.เขต 3 นราธิวาสของพรรคประชาชาติ โดยเขต 3 คือพื้นที่อ.ระแงะ ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของนายนัจมุดดีนด้วยเหมือนกัน โดยในการเลือกตั้งปี 62 นายนัจมุดดีนหลีกทางให้นายกูเฮงลงสมัคร ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้าหรือปี 66 นั้น จากการสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนโดยพรรคประชาชาติ พบว่านายกูเฮงยังมีคะแนนนิยมดีมาก และในเลือกตั้งปี 62 ก็สามารถเอาชน นายรำรี มามะ อดีตส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงสมัครในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทยไปได้อย่างขาดลอยเกือบ 20,000 คะแนน ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณาให้นายกูเฮง ลงสมัครเพื่อรักษาพื้นที่ต่อไป อีกทั้งนายกูเฮง ยังเป็นลูกชายของนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกอบจ.นราธิวาส ในฐานะบ้านใหญ่ของนราธิวาสด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่เลือกตั้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หากมีการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งแล้วเสร็จ จะเพิ่มเขตเลือกตั้งจาก 11 เขต เป็น 12 เขต และพรรคภูมิใจไทยที่เคยชนะได้ 1 เขตในการเลือกตั้งปี 62 ได้พยายามติดต่อทาบทาม ส.ส.และอดีตส.ส.ที่เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่มาลงสมัครในนามพรรค ส่วนหนึ่งก็ดึงจากพรรคประชาชาติแชมป์เก่า โดยพรรคภูมิใจไทยถือเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อจากพื้นที่นี้ รวมถึงยังเตรียมความพร้อมเพื่อการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งกับพรรคประชาชาติ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ