เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธ.ค.64
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้เปิดเผยถึงความประทับใจและเล่าประสบการณ์ในวัยเด็กที่ตนเองที่เป็นเด็กต่างจังหวัด โดยจำได้ว่าภายในบ้านมีพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้มีการเรียนรู้ถึงประวัติของพระองค์รับรู้และซึมซับถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังถิ่นทุรกันดาร และมีความรู้สึกอยากเห็นอยากเจอ แต่ยังไม่มีโอกาส แต่ในเมื่อปี พ.ศ.2548 ตนเองได้เห็นพระองค์ท่านในงานพระราชทานปริญญาบัตร รู้สึกตื่นเต้นมากและนี้คือความทรงจำความประทับใจที่พระเจ้าแผ่นดินได้มอบสิ่งนี้ให้กับเรา และที่ได้ซึมซับมาโดยตลอดว่าท่านคือพ่อแห่งแผ่นดินท่านคือพระมหากษัตริย์พระเจ้าแผ่นดินที่ดูแลประชาชนของคนไทยทุกคน
นพ.วรงค์ ยังเปิดเผยอีกว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านเป็นสุดยอดของโลกแม้แต่สหประชาชาติยังชื่นชมที่ช่วยเหลือประชาชนที่น้องคนไทยทุกคนอย่างทั่วถึงกันและท่านทรงเป็นพระบิดาหลากหลายศาสตร์ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพระบิดาเรื่องการจัดการน้ำ พระบิดาเรื่องเครื่องบินแห่งชาติ พระบิดาฝนหลวง พระบิดาแห่งนวัตกรรมแห่งในการประดิษฐ์อนุรักษ์มรดกไทยการวิจัยการช่างไทย และที่สำคัญคือเป็นพระบิดาแห่งการพัฒนาข้าวไทย หากหลอมรวมแล้วถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้งโครงการเศรษฐกิจพอเพียงยังพัฒนาไปเป็นโครงการโคกหนองนา ที่หากตนมีโอกาสจะต้องมีการช่วยพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้เหล่านี้ คนไทยทุกคนคิดถึงพระองค์ท่าน ในเมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต บรรยากาศมืดฟ้ามัวดิน หลายครั้งที่เราพูดถึงพระองค์ท่านแล้วน้ำตาไหล และในตลอดเวลา 70 ปีที่ท่านทรงงานไม่เคยหยุดพัก มีความรักความสามัคคีความผูกพันของคนในชาติ ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนที่มาอยู่ในประเทศไทยก็ต่างบอกว่าเราคือคนไทย เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจ พร้อมรวมให้ประเทศเป็นอย่างเดียว
นพ.วรงค์ ยังเปิดเผยถึงการตัดสินใจตั้งพรรคไทยภักดีว่า ยอมรับว่ามีปรากฏการณ์ที่มีการยุยงปลุกปั่นเยาวชนนิสิตนักศึกษา ที่อาจจะมีความรู้ความเข้าใจไม่ครอบคลุมจนรู้สึกเกลียดชัง ซึ่งตนไม่ได้กล่าวหา แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างชัดเจนว่ามีขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเกิดขึ้นจริงๆ โดยมีการจาบจวงสถาบันและเราเป็นประชาชนที่รับไม่ได้ เพราะมีการกล่าวให้ร้ายข้อมูลอันเป็นเท็จ สร้างข่าวปลอม หยาบคาย จึงได้พูดคุยกับกลุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ความคิดตรงกัน เห็นถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่จะต้องดำรงอยู่ในสังคมไทย ทุกคนรู้ว่าปัญหาของประเทศอยู่ที่นักการเมืองที่โกงกิน และใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่ถูกเบี่ยงเบนประเด็นไปยังสถาบันเบื้องสูง และยืนยันในอุดมการณ์ที่ชัดเจนในข้อแรกคือการปกป้องชาติศาสนาพระมหากษัตริย์