วันที่ 6 ธ.ค. 64 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์อาคารควง อภัยวงศ์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี โดยนำพวงมาลัยเข้ามาไหว้กราบ เพื่อแสดงความเคารพนับถือ และอำลาเป็นการส่วนตัว ที่ห้องทำงานของนายชวน บริเวณชั้น 3 ของอาคารฯ โดยใช้เวลานานกว่า 45 นาที
จากนั้นนายนิพิฏฐ์ได้ลงมายังด้านหน้าอาคารควง อภัยวงศ์ เพื่อถวายพวงมาลัยสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรค ก่อนยื่นเอกสารลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยตามขั้นตอนกับเจ้าหน้าที่พรรค ภายหลังจากร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์มานาน 30 ปี
ทั้งนี้นายนิพิฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายชวนว่า นายชวนได้อวยพรขอให้สำเร็จและโชคดี พร้อมฝากให้รักษาอุดมการณ์ความซื่อสัตย์สุจริตที่มีตลอดระยะเวลา 30 ปี อย่าโดนกลืน และให้เผยแพร่อุดมการณ์นี้กับพรรคอื่นๆด้วย ยืนยันว่าออกจากพรรคไปแล้วจะไม่กลับมา ที่ผ่านมาตนเคยคิดว่าจะออกไปสักพักหนึ่งแล้วจะกลับมา แต่คิดไปคิดมาไม่ได้แล้ว
“น้อยใจตัวเอง ท่านชวนบอกให้อดทน แต่สุดท้ายผมอดทนน้อยไป และขอฝากให้สมาชิกพรรครักษาพรรคประชาธิปัตย์ไว้ การเลือกตั้งครั้งหน้าเหมือนเป็นการทำสงครามครั้งสุดท้าย อาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้เพราะไม่มีอะไรแน่นอน นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมก็ต้องจงรักภักดีกับพรรคที่ไปสังกัดใหม่ ผมสู้ให้พรรคประชาธิปัตย์ยังไง ผมก็จะทำให้พรรคใหม่เป็นสองเท่าเพราะถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะทำให้กับพรรคการเมือง ใครที่เชื่อใจผมก็ให้ตามผมไป หากใครที่คิดว่าผมเป็นนักการเมืองที่ใช้ไม่ได้ก็ไม่ต้องตามไป” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ตนจะไปสังกัดพรรคใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและได้รับหน้าที่ให้ดูแลพื้นที่ภาคใต้ด้วย ทั้งนี้จะมีการเปิดตัวช่วงปลายเดือนม.ค.ปี65 ตั้งแต่วันนี้ถือว่าตนได้เปลี่ยนค่าย เหมือนนักกีฬา เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ก็จะสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ตามกติกาและกฎหมาย วันนี้ตนได้โทรศัพท์ไปลานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี กรรมการที่ปรึกษาพรรค และอดีตรองนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้โทรศัพท์กราบลานายมารุต บุนนาค กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคและ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากทั้งสองท่านเป็นผู้อาวุโสมากแล้วจึงไม่อยากรบกวน ฉะนั้นขอใช้ช่องทางนี้ในการกราบลาท่านทั้งสองด้วย อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่เกิดเรื่องผู้สมัครส.ส.ในจ.พัทลุง ตนก็ไม่ได้พูดคุยกับส.ส.พัทลุงปัจจุบันทั้งสองคน รวมทั้งไม่ได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่ผ่านมา 2 ปีกว่าตนได้พูดคุยกับนายจุรินทร์ 2 ครั้งเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังยื่นใบลาออก นายนิพิฏฐ์ ได้นำพวงมาลัยไปสักการะรูปภาพของม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาคารม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และเดินดูพิพิธภัณฑ์ความเป็นมาของประชาธิปัตย์ ก่อนออกมายืนนิ่งอยู่หน้าอาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชระยะหนึ่ง โดยบอกว่าต้องการซึมซับบรรยากาศเป็นครั้งสุดท้าย และให้สัมภาษณ์ถึงจุดแตกหักที่ตัดสินใจลาออกจากพรรคครั้งนี้ว่า คือครั้งที่พรรคตัดสินใจส่งผู้สมัครลงส.ส. พัทลุง โดยไม่ได้บอกหรือสอบถามตน ทั้งที่ตนมีผู้สมัครในใจและผ่านการพูดคุยในพรรคไปแล้ว ทำให้คิดว่าอยู่พรรคนี้ต่อไปคงไม่มีประโยชน์กับพรรคแล้ว จึงขอออกจากพรรคไปดีกว่า และเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ไม่มีตนเองก็คงเดินหน้าต่อไปได้เพราะเป็นสถาบันการเมืองอยู่แล้ว และคงไม่ตัดสินใจกลับมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์อีกแล้วแม้ในอนาคต จะเปลี่ยนหัวหน้าพรรคก็ตาม และขอไปสู้ศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายกับพรรคใหม่ ถ้าไม่ได้ก็จะไปธุดงค์ ก่อนขึ้นรถออกไปจากพรรค