จากกรณีตา หลาน เสียชีวิตในวันเดียวกัน และเวลาไล่เลี่ยกัน ย่านนิมิตรใหม่ โดยก่อนเสียชีวิตได้กินน้ำขวดเดียวกัน ล่าสุดผลตรวจน้ำจากเครื่องกรองน้ำออกมาแล้วพบว่า มีสารฟีนอล ซึ่งเป็นสารพิษทำให้เสียชีวิตได้
โดยรองศาสตราจารย์ ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ผลตรวจน้ำจากเครื่องกรองน้ำ พบว่า มีสารฟีนอล ซึ่งเป็นสารพิษ ที่ไม่ควรอยู่ในน้ำดื่มทุกชนิดเจือปนอยู่ โดยสารฟีนอล เป็นสารที่ถูกนำมาใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต ผลิตภัณฑ์เคมีหลายชนิด อาทิ สีย้อม สารเคมีกำจัดวัชพืช และศัตรูพืช หากเข้าสู่ร่างกายจะไหลเข้าสู่ระบบเลือด และหากได้รับเกิน 4.8 มิลลิกรัม สามารถทำให้เสียชีวิตภายใน 15 นาทีได้
สารฟีนอล จะส่งผลได้ เป็น 2 ลักษณะคือ
- 1.การเป็นพิษเฉียบพลัน อันเกิดจากการสัมผัส จะทำให้เกิดการละคายเคืองต่อผิวหนัง เยื่อบุตา เยื่อบุระบบทางเดินหายใจ มีอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน ท้องร่วง และ
- 2.การได้รับสารฟีนอลเข้าทางปากเพียง 4.8 มิลลิกรัม จะทำให้เสียชีวิตได้ภาย 15 นาที
ส่วนผลการผ่าชันสูตรศพเด็กวัย 6 ขวบ รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ต้องรอผลภายใน 45 วัน
ด้านนายนวพล ศรีสวัสดิ์ ลูกชายของนายณรงค์ศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ซึ่งเสียชีวิตวันเดียวกับน้องน้องที โดยนายนวพลมีศักดิ์เป็นลุงน้องที กล่าวถึงผลตรวจที่ มีสารฟีนอลในขวดน้ำดื่ม ว่า รู้สึกงง และไม่รู้ว่า สารนี้มาอยู่ในขวดน้ำได้อย่างไร ชี้แจงว่า พ่อกับแม่เป็นคนซื้อเครื่องกรองน้ำนี้มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว และไม่เคยมีปัญหาก็ดื่มกินกันตลอด โดยยายเป็นผู้กรอกน้ำทุกวัน ตอนนี้ไม่รู้จะพูดยังไง ส่วนการถูกกล่าวหาจากฝั่งพ่อน้องที ก็ไม่เป็นไร ขอให้รอฟังผลพิสูจน์ชันศพที่ออกมา