จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่พบว่ายอดผู้ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นอี 2 ราย หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนรายแรกเป็นชายอายุ 35 ปี ชาวอเมริกัน เดินทางมาจากประเทศสเปน และตรวจพบเชื้อที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นพบว่ามีผู้มีความเสี่ยงสัมผัสต่ำจากนักท่องเที่ยวรายนี้ได้รับเชื่อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนอย่างมาก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว TOPNEWS ถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสายพันธุ์โอมิครอน โดยกล่าวว่า ขณะนี้โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เข้าสู่ประเทศไทยตามที่ได้คาดการณ์ไว้ แต่ประเทศไทยมีมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ ซึ่งตอนนี้ผู้ติดเชื้อโอมิครอน ได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้ง 3 ราย จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกกับเรื่องของสายพันธุ์ แต่ควรให้ความสำคัญกับการรับวัคซีน เพื่อป้องกันการติดเชื้อของโควิด-19 ทุกสายพันธุ์
ส่วนรัฐบาลก็ได้มีการออกมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวจากทวีปแอฟริกาเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นการลดจำนวนผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ 3 ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยมีมาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศ จะต้องทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และกักตัว 1 วัน ต้องแสดงเอกสารวัคซีน พาสสปอต ตามมาตรการ Thailand pass จึงถือว่ามาตรการการคัดกรองของประเทศไทยมีความครอบคุมอย่างมาก จึงมั่นใจว่าจะทำให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนคนไทยอย่างแน่นอน
เบื้องต้นทราบว่าวัคซีนที่คนไทยได้รับส่วนใหญ่ ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อจากทุกสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอน อีกทั้งทางกระทรวงสาธรณสุข ได้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศึกษาหาความรุนแรงของเชื้อโอมิครอน ถ้าไม่มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก็จะพยายามที่จะวางมาตรการที่จะไม่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน แต่ถ้าพบว่าสายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรง และจะก่อให้เกิดการระบาด การติดเชื้อ อาจจะต้องมีมาตรการที่รัดกุม แต่จะเป็นการทำคู่ขนานกันไปกับความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการหารือเรื่องการปิดประเทศ เป็นเพียงการเพิ่มมาตรการการเข้า-ออกประเทศ เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อ
อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนเร่งฉีดวัคซีนเพื่อความปลอดภัย หารครอบครัวหรือคนใกล้ชิดของใครที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ขอให้พยายามหาสถานบริการฉีดวัคซีน ให้ได้โดยเร็วที่สุด ถึงแม้วัคซีนจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้100% แต่วัคซีนป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้เกือบ 100%