ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอปัญหาร้องเรียน “รอ สปสช. เยียวยาผลข้างเคียงฉีดวัคซีน” โดยใช้ชื่อว่าสุรชัย ที่ให้ข้อมูลระบุว่าการช่วยเหลือจาก สปสช.ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน ทั้งที่มีนโยบายการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วนั้น สปสช.ได้ประสานไปยังสื่อมวลชนเพื่อขอข้อมูลเพื่อติดต่อผู้ร้องเรียนเพิ่มเติม และได้โทรพูดคุยและชี้แจงกับผู้ร้องเรียนรายนี้แล้ว
ทั้งนี้ผู้ร้องเรียนกรณีนี้เป็นผู้มีสิทธิประกันสังคม ภายหลังรับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เกิดอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น และได้เข้ายื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังจากการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ สปสช.เขต 13 กทม. เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 โดย สปสช.เขต 13 กทม. ได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตามด้วยก่อนหน้านี้ที่เกิดปัญหาติดขัดทางกฎหมาย เนื่องจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ออกประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เพื่อเป็นการดูแลผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกันตนไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือตามประกาศของ สปสช. เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2564 ได้ และต่อมาในเดือนตุลาคม 2564 ทาง สปส. จึงได้มีการแก้ไขโดยออกประกาศฉบับใหม่ ที่ให้ผู้ประกันตนมารับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นฯ ตามประกาศ สปสช. แทน
ในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 3 เดือน ส่งผลให้มีผู้ประกันตนที่ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือฯ รอการพิจารณาอยู่เป็นจำนวนนับพันราย ซึ่งภายหลังจากที่ สปส. ได้ส่งข้อมูลคำร้องของผู้ประกันตนมายัง สปสช. แล้ว ทาง สปสช. ได้รีบเร่งกระบวนการพิจารณา เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ยื่นคำร้องเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือฯ โดยเร็วที่สุด
“เฉพาะในพื้นที่ เขต 13 กทม. มีผู้ประกันตนที่ยื่นคำร้องและรอการพิจารณาถึง 300 ราย สปสช.เขต 13 กทม. จึงจำเป็นต้องพิจารณาคำร้องผู้ประกันตนที่ค้างสะสมก่อน ซึ่งค้างมาตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 และจากการเร่งดำเนินการ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทางอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาคำร้องแล้วเสร็จทั้งหมด 300 รายแล้ว หลังจากนี้จะเป็นการเริ่มพิจารณาคำร้องของผู้ประกันตนตามระบบคิวปกติ รวมถึงคำร้องผู้ร้องเรียนรายนี้ด้วย ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาอนุกรรมการฯ ในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ โดยยังอยู่ในระยะเวลาเข้าสู่การพิจารณาไม่เกิน 30 วัน” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวและว่า ภายหลังจากที่มีมติช่วยเหลือ สปสช.จะทำการโอนเงินช่วยเหลือภายใน 5 วัน
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า นอกจากผู้ประกันตนแล้ว ยังมีประชาชนสิทธิอื่นๆ ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 และได้ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือเบื้องต้นฯ มายัง สปสช. จำนวนมากเช่นกัน ทำให้มีคำร้องขอรับการช่วยเหลือเบื้องต้นฯ มีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถตรวจสอบคิวการพิจารณาคำร้องฯ ได้ ผ่านช่องทาง Line สปสช.เขต 13 กทม. @ucbkk และสายด่วน สปสช. 1330