อย่าหาทำ! ตร.เตือนสติ หลังตรวจพบ การทำเอกสาร รับรองวัคซีนปลอม ระวังเจอความผิด

อย่าหาทำ! ตร.เตือนสติ หลังตรวจพบ การทำเอกสาร รับรองวัคซีนปลอม ระวังเจอความผิด

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าในปัจจุบันซึ่งยังคงอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทางรัฐบาลก็ได้มีมาตรการผ่อนคลายต่างๆ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทั้งนี้ก็ยังคงมีมาตรการต่างๆ ในการเดินทางหรือใช้บริการต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการต้องมีการฉีดวัคซีน พาสปอร์ตเพื่อใช้ประกอบการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ หรือการต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือจะต้องมีผลตรวจ ATK เพื่อเข้ารับบริการต่างๆ

แต่ก็ยังคงมีเหล่ามิจฉาชีพอาศัยช่องว่างดังกล่าวในการกระทำความผิด โดยการทำเอกสารรับรองปลอมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ซึ่งได้มีการตรวจพบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา และถูกวิพากวิจารณ์อย่างมากบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบหาตัวผู้กระทำความผิด เพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

โดยการกระทำในลักษณะดังกล่าวนั้นเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารทั้งฉบับ ปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่ง แก้ไขข้อความจากเอกสารที่แท้จริงหรือแม้กระทั่งการประทับตราปลอม ลงลายมือชื่อปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท

อีกทั้งหากผู้ใดมีเจตนาที่จะนำไปใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดดังกล่าวในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้องระวางโทษดังที่บัญญัติในมาตรานั้นๆ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงพิษภัยของปัญหาดังกล่าวและเพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรม ที่ส่งผลกระทบซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้สั่งการกำชับไปยังทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดทำการประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน และเร่งทำการป้องกันปราบปรามสืบสวนสอบสวน รวมถึงจับกุมตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังต่อเนื่องและให้มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการ ร้านค้า หรือธุรกิจต่างๆ ให้เพิ่มมาตรการความเข้มงวด ในการตรวจสอบเอกสารรับรองที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเพื่อใช้ประกอบสำหรับ กิจกรรม กิจการต่างๆ หรือใช้สำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินทั้งภายในและต่างประเทศ โดยสามารถตรวจสอบหรืออ้างอิงจากแอพพลิเคชั่นหมอพร้อมเป็นหลักและให้ตรวจสอบ QR Code ที่อยู่บนเอกสารให้ชัดเจนว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลในแอพพลิเคชั่นหมอพร้อมหรือไม่ และขอให้ประชาชนลงทะเบียนทำเอกสารตามระบบและช่องทางต่างๆ ที่ภาครัฐกำหนด เพื่อให้ได้รับเอกสารที่ถูกต้องของทางราชการ นอกจากนี้หากประชาชนหากพบเบาะแสหรือการกระทำความผิดต่างๆ สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 10 เตือน ปชช.ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ระทึก ! บุกยิงบ้านผู้ใหญ่ โบว์ คาดว่า การเมือง ท้องถิ่นเป็นเหตุ
‘บิ๊กต่าย’ เผยตร.ทำงานยังคงทำคดี ‘ดิไอคอน’ ตามที่ DSI ร้องขอ
ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น